คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1861/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 14 บัญญัติให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวได้เฉพาะกรณีที่ศาลงดการไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณาเพราะจำเลยเป็นผู้วิกลจริตและไม่สามารถต่อสู้คดีได้ ในคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องและศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปนั้นถือได้ว่าคดีเสร็จการพิจารณาแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นเห็นสมควรให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปย่อมเป็นอำนาจทั่วไปของศาลที่จะสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวได้เพื่อมิให้คดีที่เสร็จการพิจารณาแล้วต้องเป็นคดีค้างพิจารณาเมื่อถึงวันเวลาที่นัดไว้ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจที่จะอ่านคำพิพากษาให้คู่ความฟังได้โดยไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งในรายงานกระบวนพิจารณาให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งประทับฟ้อง

จำเลยให้การรับสารภาพหลังจากสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้วและแถลงว่าจะไปหาเงินมาชำระให้โจทก์ในนัดหน้า ขอเลื่อนการฟังคำพิพากษาไป โจทก์ไม่ค้านและว่าถ้าจำเลยหาเงินมาให้โจทก์ได้ก็จะถอนฟ้อง ศาลชั้นต้นจดรายงานกระบวนพิจารณาอนุญาตให้เลื่อนการนัดฟังคำพิพากษาไป และมีคำสั่งว่าในชั้นนี้ให้จำหน่ายคดีชั่วคราว ได้มีการเลื่อนการฟังคำพิพากษาไปอีกนัดหนึ่งครั้นถึงวันนัด โจทก์จำเลยไม่แถลงประการใด ศาลชั้นต้นจึงอ่านคำพิพากษาให้จำเลยฟัง โดยพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ให้ลงโทษจำคุก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาบัญญัติให้อำนาจศาลที่จะสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวได้เมื่อมีเหตุตามมาตรา 14 เท่านั้นคดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง และศาลชั้นต้นให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาไป ซึ่งถือได้ว่าคดีเสร็จการพิจารณาแล้ว ไม่มีการพิจารณาอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไปอีก การที่ศาลเห็นสมควรเลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปเป็นวันอื่นตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 182 นั้น กฎหมายมิได้บัญญัติให้ศาลสั่งจำหน่ายชั่วคราว แต่ก็เป็นอำนาจทั่วไปของศาลที่จะสั่งได้เพื่อมิให้คดีที่เสร็จการพิจารณาแล้วต้องค้างข้ามปี การที่ศาลสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวดังกล่าว เป็นการสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวโดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเพื่อให้โจทก์ถอนฟ้อง ศาลก็จะอ่านคำพิพากษาไปตามวันเวลาที่นัดไว้โดยไม่มีการพิจารณาอย่างใดอีก ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นัดฟังคำพิพากษาและอ่านคำพิพากษาให้คู่ความฟังไปตามวันเวลาที่นัดไว้เพราะจำเลยมิได้ปฏิบัติตามข้อตกลงจึงเป็นการชอบแล้ว หามีความจำเป็นอย่างใดที่จะต้องมีคำสั่งในรายงานกระบวนพิจารณาให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ดังที่จำเลยฎีกาไม่

พิพากษายืน

Share