คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เทศบัญญัติของเทศบาลนครกรุงเทพ เรื่องควบคุมการค้าอาหารและน้ำแข็งในสถานที่เอกชน(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2505 มุ่งควบคุมสถานที่ที่ใช้เป็นที่ทำการค้าสถานที่ใช้ประกอบการค้าตามความของเทศบัญญัติฉบับนี้ จึงต้องหมายถึงสถานที่ที่ใช้ประกอบการค้าทั้งหมด หาได้หมายถึงเฉพาะที่ตั้งสำหรับวางขายสินค้าเท่านั้นไม่ เมื่อร้านค้าของโจทก์ที่ใช้เป็นที่ขายอาหารบรรจุขวดมีเนื้อที่ 60 ตารางเมตร โจทก์ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตตามอัตรา 60 ตารางเมตร ที่ระบุไว้ตามบัญชีอัตราค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตนั้นจะเสียเฉพาะเนื้อที่ตรงที่ตั้งตู้และชั้นวางขายอาหาร หาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณ 6 ปีมาแล้ว โจทก์ประกอบการค้าประเภทสะสมอาหารขึ้นในร้านค้าเครื่องสำอางของโจทก์ เป็นอาหารประเภทบรรจุขวดใส่ไว้ในตู้กระจก 2 ตู้ และวางไว้บนชั้นไม้ 1 ชั้น คิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 1.614 ตารางเมตร ซึ่งเทศบัญญัตินครกรุงเทพเรื่อง อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ตั้งหรือใช้สถานที่เอกชนเป็นที่ขาย ทำประกอบ ปรุง สะสมอาหารและน้ำแข็ง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2505 ข้อ 3 กำหนดให้เสียค่าธรรมเนียมปีละ 30 บาท และโจทก์ได้ชำระติดต่อกันมาถึง พ.ศ. 2511 ต่อมา พ.ศ. 2513 พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยแจ้งว่าโจทก์ขยายสถานที่ทำการค้าขึ้นเป็น 60 ตารางเมตร จึงให้เสียค่าธรรมเนียมปีละ 200 บาท ซึ่งโจทก์ยอมชำระให้จำเลยไปแล้ว แต่โจทก์เห็นว่าจำเลยไม่มีอำนาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการขยายพื้นที่นั้นได้ จำเลยมีสิทธิที่จะเรียกเก็บได้เพียง 30 บาท จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยคืนค่าธรรมเนียมที่เก็บเกิน 170 บาทแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์ฟ้องผิดศาลเพราะเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ศาลแขวงไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา พื้นที่ที่โจทก์ขออนุญาตประกอบการค้ามีเนื้อที่ 60 ตารางเมตร เมื่อนำมาคำนวณค่าธรรมเนียมตามตารางอัตราค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตท้ายเทศบัญญัติเรื่องควบคุมการค้าอาหารและน้ำแข็งในสถานที่เอกชน แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2505 แล้ว โจทก์จะต้องเสีย 300 บาท แต่เจ้าหน้าที่ได้คิดพื้นที่ทำการค้าเพียงครึ่งของพื้นที่อันเป็นสถานที่ใช้ประกอบการค้าทั้งหมด ลดค่าธรรมเนียมให้เสียเพียง 200 บาท ซึ่งได้รับอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแล้ว การเรียกเก็บจึงชอบด้วยอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมาย ขอให้ยกฟ้อง

คู่ความแถลงรับกันว่า ห้องของโจทก์ที่ใช้ทำการค้ามีเนื้อที่ 60 ตารางเมตร โจทก์วางสินค้าอาหารขายเฉพาะตู้ 2 ตู้ และชั้น 1 ชั้นมีเนื้อที่รวมกัน 1.614 ตารางเมตร ในร้านของโจทก์มีสินค้าเครื่องสำอางวางขายอยู่ด้วย โจทก์ไม่ได้ตั้งโต๊ะเก้าอี้ให้ผู้ซื้อกินอาหารในร้าน โจทก์แถลงว่า ตามเทศบัญญัติของเทศบาลนครกรุงเทพ การเก็บเงินค่าธรรมเนียมคดีนี้ต้องคำนวณเฉพาะเนื้อที่ที่โจทก์ใช้วางสินค้าอาหารเท่านั้น จำเลยแถลงว่า ต้องคำนวณเนื้อที่ห้องของโจทก์ที่ใช้ประกอบการค้าทั้งหมด คู่ความไม่ติดใจสืบพยานให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดไปได้

ศาลแขวงพระนครเหนือพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยคำนวณเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากโจทก์ชอบด้วยเทศบัญญัติของเทศบาลนครกรุงเทพเรื่อง ควบคุมการค้าอาหาร ฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2505 แล้ว พิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในปัญหาว่าการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมของจำเลยในคดีนี้เป็นการชอบด้วยเทศบัญญัติเรื่องควบคุมการค้าอาหารและน้ำแข็งในสถานที่เอกชน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2505 หรือไม่นั้น ได้พิเคราะห์แล้ว เทศบัญญัติของเทศบาลนครกรุงเทพเรื่องควบคุมการค้าอาหารและน้ำแข็งในสถานที่เอกชน พุทธศักราช 2487 ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติสาธารณสุข พุทธศักราช 2487 ข้อ 4, 6, 7 และ 9 กำหนดไว้ว่า ผู้ที่จะตั้งหรือใช้สถานที่เอกชนแห่งหนึ่งแห่งใดเป็นที่ขายอาหาร หรือน้ำแข็ง หรือทำประกอบ ปรุง สะสมอาหารหรือน้ำแข็ง รวมทั้งผู้จะตั้งหรือใช้สถานที่เป็นโรงงานทำอาหารบรรจุกระป๋อง ขวด หรือที่ใส่อย่างอื่นเพื่อไม่ให้เสียง่ายจะต้องขอและได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นโดยเสียค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามอัตราท้ายเทศบัญญัติ ใบอนุญาตนั้นให้ใช้เฉพาะสถานที่แห่งเดียวที่ระบุไว้ และเฉพาะผู้รับอนุญาตเท่านั้น ส่วนบัญชีอัตราค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตท้ายเทศบัญญัติดังกล่าว ช่องประเภท ใช้คำว่า สถานที่ใช้ประกอบการค้าและเรียกเก็บตามตารางเมตรของสถานที่นั้น บัญชีนี้ต่อมาถูกยกเลิกและให้ใช้อัตราค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตใหม่ โดยเทศบัญญัติเรื่องควบคุมการค้าอาหารและน้ำแข็งในสถานที่เอกชน (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2496 ช่องประเภทแก้เป็นสถานที่ที่ให้เช่าหรือพึงประเมินเป็นรายเดือน คือ เรียกเก็บตามอัตราค่าเช่าสถานที่นั้นแทน จนต่อมาปี พ.ศ. 2505 จึงออกเทศบัญญัติฉบับที่ 3 ที่พิพาทกันคดีนี้ ยกเลิกฉบับที่ 2 เปลี่ยนกลับไปเก็บตามตารางเมตรของสถานที่ที่ค้าตามเดิม แก้อัตราค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บสูงขึ้นดังนี้ เมื่อพิเคราะห์โดยตลอดแล้วจะเห็นได้ว่าเทศบัญญัตินี้มุ่งควบคุมสถานที่ที่ใช้เป็นที่ทำการค้า บัญชีอัตราค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตก็ใช้คำว่า สถานที่ใช้ประกอบการค้าทุกฉบับตลอดมา สถานที่ใช้ประกอบการค้าตามความของเทศบัญญัตินี้จึงต้องหมายถึงสถานที่ที่ใช้ประกอบการค้าทั้งหมด หาได้หมายถึงเฉพาะที่ตั้งสำหรับวางขายสินค้าดังฎีกาของโจทก์ไม่ เมื่อร้านค้าของโจทก์ที่ใช้เป็นที่ขายอาหารบรรจุขวดมีเนื้อที่ 60 ตารางเมตร โจทก์ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตตามอัตรา 60 ตารางเมตรที่ระบุไว้ตามบัญชีอัตราค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตนั้น จะเสียเฉพาะเนื้อที่ตรงที่ตั้งตู้และชั้นวางขายอาหารหาได้ไม่ ฉะนั้น ที่เจ้าหน้าที่ของจำเลยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตโดยคำนวณเนื้อที่ห้องที่โจทก์ใช้ประกอบการค้าทั้งหมดจึงเป็นการถูกต้องตามเทศบัญญัติแล้ว พิพากษายืน

Share