แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การถอนฟ้องในคดีแพ่งนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 175 บังคับเพียงว่าให้ศาลฟังจำเลยก่อนที่จะสั่งอนุญาตให้ถอนคำฟ้อง แม้จำเลยคัดค้านก็อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะสั่งอนุญาตได้ (อ้างฎีกาที่ 284/2505)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่ให้ร่วมกันชำระหนี้แก่โจทก์เป็นจำนวน 1,106,068.98บาท โดยจำเลยที่ 1 กู้เบิกเงินเกินบัญชีไปจากโจทก์ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 จำนองที่ดินเป็นประกัน จำเลยที่ 3 จำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นประกัน จำเลยทั้งสี่ให้การต่อสู้คดีเป็นใจความว่า คำฟ้องไม่สมบูรณ์เพราะไม่แนบหนังสือสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและสัญญาจำนองมาท้ายคำฟ้อง จำเลยไม่รับรองจำนวนหนี้ โจทก์ไม่ได้บอกกล่าวบังคับจำนองหนังสือมอบอำนาจท้ายคำฟ้องเป็นแบบพิมพ์หนังสือมอบอำนาจที่ยังไม่ได้กรอกข้อความ ไม่มีวันเดือนปี ไม่มีลายมือชื่อผู้มอบอำนาจและพยาน ไม่มีรอยตราประทับ ไม่ปิดอากรแสตมป์ ไม่มีผู้รับรองสำเนาถูกต้องเฉพาะจำเลยที่ 2 ต่อสู้ด้วยว่าจำเลยที่ 1 นำหนังสือมอบอำนาจซึ่งจำเลยที่ 2ลงลายมือชื่อไว้ยังไม่กรอกข้อความไปทำนิติกรรมจำนอง โดยจำเลยที่ 2 ไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย นิติกรรมจำนองจึงเป็นโมฆะ ศาลชั้นต้นสั่งนัดพร้อมและนัดสืบพยานโจทก์แต่ก่อนถึงวันนัดโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนคำฟ้อง โดยอ้างว่าเสมียนทนายพิมพ์คำฟ้องขาดตกบกพร่องไป โจทก์เพิ่งทราบว่าคำฟ้องขาดสารสำคัญและข้อเท็จจริงบางประการ
จำเลยทั้งสี่คัดค้านการที่โจทก์ขอถอนฟ้อง
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนคำฟ้องได้ จำหน่ายคดีจากสารบบความ
จำเลยทั้งสี่อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้นโดยให้ยกคำร้องขอถอนคำฟ้องของโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 175 วรรคสอง บังคับเพียงว่าให้ศาลฟังจำเลยก่อนที่จะสั่งอนุญาตให้ถอนคำฟ้องแม้จำเลยคัดค้าน ก็อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะสั่งอนุญาตได้ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 284/2505 คดีระหว่างนางกิมนึ้ง ชิ้นในเมือง โจทก์ นายประเดิมเปรมจิต จำเลย สำหรับคดีนี้จำเลยทั้งสี่คัดค้านว่าจำเลยให้การต่อสู้คดีไว้แล้วหากโจทก์ถอนคำฟ้องจะทำให้จำเลยเสียเปรียบในเชิงคดี เห็นว่าข้อที่จะทำให้จำเลยเสียเปรียบก็คือ จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ต่อสู้ว่า โจทก์ไม่ได้บอกกล่าวบังคับจำนองแก่จำเลยทั้งสามก่อนฟ้อง ทั้งนี้น่าจะเนื่องมาจากคำขอท้ายคำฟ้องของโจทก์ที่ขอให้สั่งยึดทรัพย์จำนองขายทอดตลาด ถ้าหากขายทรัพย์จำนองได้เงินไม่พอชำระหนี้ก็ขอให้ยึดทรัพย์อื่นของจำเลยต่อไป อันทำให้จำเลยเข้าใจว่าโจทก์ฟ้องบังคับจำนอง เมื่อปรากฏว่าคำฟ้องที่โจทก์ยื่นต่อศาลแนบเอกสารตามที่กฎหมายต้องการไม่ครบถ้วน ทำให้อ่านไม่เข้าใจโจทก์จึงขอถอนคำฟ้องไป ก็ไม่น่าจะทำให้จำเลยเสียเปรียบในเชิงคดีอย่างไร สมควรให้โจทก์ถอนคำฟ้องได้
พิพากษากลับ บังคับตามคำสั่งศาลชั้นต้น