คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 185/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

นิติบุคคลต้องรับผิดในกิจการที่กรรมการหรือผู้จัดการได้ทำไปในหน้าที่ของตน
ตัวแทนของบริษัทนิติบุคคลยื่นงบเดือนขุดขายแร่ไม่ตรงต่อความจริง อันเป็นผิดต่อพ.ร.บ.เหมืองแร่ ซึ่งบัญญัติให้เอาผิดแก่ผู้ถือประทานบัตรคือบริษัทนิติบุคคลนั้น ดังนี้บริษัทนิติบุคคลนั้น ก็ต้องรับผิด แม้จะเป็นความผิดทางอาญาก็ตาม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นนิติบุคคลโดยมีจำเลยที่ ๒ เป็นผู้จัดการทั่วไป และจำเลยที่ ๓ เป็นตัวแทนมีอำนาจหน้าที่ทำกิจการเกี่ยวกับเหมืองแร่ในท้องที่อำเภอกะบง โดยจำเลยที่ ๑ เป็นผู้ถือประทานบัตร จำเลยที่ ๓ ได้ยื่นบัญชีงบเดือน การขุดและจำหน่ายแร่ต่อเจ้าพนักงานโลหะกิจไม่ตรงต่อความจริง กระทำให้สถิติของทางราชการเสียหาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ พ.ศ.๒๔๖๑ มาตรา ๗๘ แก้ไขเพิ่มเติมฉะบับที่ ๖ พ.ศ.๒๔๘๓ มาตรา ๔
จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๑,๒ ไม่ต้องรับผิดในการกระทำของจำเลยที่ ๓ ซึ่งเป็นตัวแทนไปกระทำผิดทางอาญา และตามพ.ร.บ.การทำเหมืองแร่ ๒๔๘๓ มาตรา ๔ ให้เอาผิดแก่ผู้ถือประทานบัตรเท่านั้น จำเลยที่ ๓ เป็นเพียงตัวแทนจึงไม่มีความผิดและโจทก์ก็ไม่ได้ฟ้องว่า จำเลยสมคบกัน จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตาม พ.ร.บ.การทำเหมืองแร่ ๒๔๖๑ มาตรา ๓๕ ที่แก้ไขใหม่ จึงพิพากษาปรับจำเลยที่ ๑ เป็นจำนวนเงิน ๕๐๐ บาท
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นบริษัทผู้ถือประทานบัตรว่าทำผิด พ.ร.บ.เหมืองแร่ โดยจำเลยที่ ๓ ซึ่งเป็นตัวแทนยื่นบัญชีงบเดือนไม่ตรงกับความจริง จำเลยให้การรับ ฉะนั้นศาลอุทธรณ์ลงโทษไว้ชอบแล้ว แม้บริษัทมิได้เป็นผู้ยื่นบัญชีเองก็ดี จึงพิพากษายืน

Share