คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1848/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อฟ้องโจทก์ได้ความเพียงว่าผู้ให้เช่านาขายนาพิพาทให้แก่โจทก์ในราคา 775,000 บาท โดยมิได้แจ้งให้โจทก์ซื้อก่อนโจทก์ร้องเรียนต่อ คชก.ตำบลเพื่อขอใช้สิทธิซื้อที่นาพิพาทคชก.ตำบลมีมติให้จำเลยผู้ซื้อขายนาพิพาทให้แก่โจทก์แล้วแต่จำเลยเพิกเฉย โดยมิได้มีข้อความใดแสดงให้เห็นว่าโจทก์ได้ใช้สิทธิขอซื้อในราคาที่จำเลยซื้อมาหรือราคาตลาดซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่า และ คชก.ตำบลได้มีคำวินิจฉัยอันถึงที่สุดให้จำเลยขายในราคาดังกล่าวแล้ว การใช้สิทธิของโจทก์จึงมิได้เป็นไปตามเงื่อนไขและขั้นตอนตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2531 นางแฉล้มสุขาบูรณ์ ขายที่ดินโฉนดเลขที่ 6054 ซึ่งโจทก์เป็นผู้เช่าให้แก่จำเลยในราคา 775,000 บาท โดยมิได้แจ้งให้โจทก์ซื้อก่อนโจทก์จึงร้องเรียนต่อ คชก. (คณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม)ตำบลวัดสำโรง เพื่อขอใช้สิทธิซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว คชก.ตำบลวัดสำโรงมีมติให้จำเลยขายที่ดินให้โจทก์แล้ว แต่จำเลยเพิกเฉยขอให้บังคับจำเลยขายที่ดินโฉนดเลขที่ 6054 ให้โจทก์ในราคา775,000 บาท หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้จำเลยส่งโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวให้โจทก์และให้ถือคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ได้เช่าที่พิพาทจากนางแฉล้มสุขาบูรณ์ โจทก์ทราบเรื่องการซื้อที่พิพาทของจำเลยแต่โจทก์ไม่ติดใจซื้อไว้เอง ราคาที่ซื้อขายกันจริงเป็นเงิน 2,730,000 บาทมิใช่ 775,000 บาท โจทก์ไม่เคยขอซื้อที่พิพาทจากจำเลย และไม่เคยร้องเรียนต่อ คชก.ตำบลเพื่อวินิจฉัยให้จำเลยขายที่พิพาทแก่โจทก์เสียก่อน จำเลยไม่เคยทราบมติ คชก.ตำบล เมื่อวันที่25 พฤศจิกายน 2531
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยขายที่ดินโฉนดเลขที่ 6054ให้โจทก์ในราคา 2,730,000 บาท หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนา แต่ให้โจทก์ชำระราคาตอบแทนก่อนและให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินแก่โจทก์
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การฟ้องขอให้ผู้รับโอนขายนากรณีผู้ให้เช่านาขายนาโดยไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 มาตรา 53 นี้ พระราชบัญญัติดังกล่าวได้กำหนดเงื่อนไขและขั้นตอนไว้โดยเฉพาะกล่าวคือ เกี่ยวกับราคาที่ผู้เช่านามีสิทธิซื้อ ผู้เช่านามีสิทธิซื้อตามราคาและวิธีการชำระเงินที่ผู้รับโอนรับซื้อไว้หรือราคาตลาดในขณะนั้นสุดแต่ว่าราคาใดจะสูงกว่ากันและผู้เช่านาจะต้องใช้สิทธิซื้อนาดังกล่าวภายในกำหนดเวลาสองปีนับแต่วันที่ผู้เช่านารู้หรือควรรู้หรือภายในกำหนดเวลาสามปีนับแต่ผู้ให้เช่านาโอนนานั้นตามมาตรา 54 วรรคหนึ่ง เมื่อใช้สิทธิดังกล่าวแล้ว หากผู้รับโอนไม่ยอมขาย ผู้เช่านาต้องร้องขอต่อ คชก.ตำบล เพื่อวินิจฉัยให้ผู้รับโอนขายตามมาตรา 54 วรรคสอง และเกี่ยวกับคำวินิจฉัยของ คชก.ตำบล ในเรื่องนี้พระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ. 2524 ได้บัญญัติเรื่องอุทธรณ์และการบังคับไว้ด้วยโดยบัญญัติในมาตรา 56 วรรคสอง ว่า คำวินิจฉัยของ คชก.ตำบลที่มิได้อุทธรณ์ต่อ คชก.จังหวัดภายในกำหนดเวลาย่อมถึงที่สุดและบัญญัติในมาตรา 58 วรรคสอง ว่า คำวินิจฉัยของ คชก.ตำบลซึ่งถึงที่สุดดังกล่าว กรณีมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามผู้มีส่วนได้เสียร้องขอให้ศาลบังคับได้โดยถือเป็นคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ แต่ตามฟ้องคงได้ความแต่เพียงว่านางแฉล้ม สุขาบูรณ์ ซึ่งเป็นผู้ให้เช่านาขายนาพิพาทให้แก่โจทก์ในราคา 775,000 บาท โดยมิได้แจ้งให้โจทก์ซื้อก่อน โจทก์ร้องเรียนต่อ คชก.ตำบลวัดสำโรงเพื่อขอใช้สิทธิซื้อที่นาพิพาท และคชก.ตำบลวัดสำโรงมีมติให้จำเลยขายนาพิพาทให้แก่โจทก์แล้วแต่จำเลยเพิกเฉยเท่านั้น โดยมิได้มีข้อความใดแสดงให้เห็นว่าโจทก์ได้ใช้สิทธิขอซื้อในราคาที่จำเลยซื้อมาหรือราคาตลาดซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่า และ คชก.ตำบลวัดสำโรงได้มีคำวินิจฉัยอันถึงที่สุดให้จำเลยขายในราคาดังกล่าวแล้ว การใช้สิทธิของโจทก์จึงมิได้เป็นไปตามเงื่อนไขและขั้นตอนตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
พิพากษายืน

Share