คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1847/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คนขับรถใช้ให้จำเลยที่ 1 ขับรถแทน คนขับมีหน้าที่ควบคุมรับผิดชอบไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้รถคว่ำ และบุตรโจทก์ถึงแก่ความตาย คนขับจะต้องรับผิดในการละเมิดที่เกิดขึ้น เหตุที่เกิดการละเมิดนี้อยู่ในกรอบกิจการที่จ้าง นายจ้างจะต้องร่วมรับผิดด้วย แม้คนตายจะโดยสารรถโดยไม่ได้ชำระค่าโดยสาร ก็ไม่เป็นเหตุให้นายจ้างพ้นความรับผิด เมื่อทรัพย์สินของผู้ตายสูญหายไปซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการที่ลูกจ้างทำละเมิด นายจ้างจะต้องรับผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายกิมเลี้ยง แซ่ลิ้ม บุตรโจทก์ ได้โดยสารรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 2 ซึ่งมีจำเลยที่ 1 เป็นคนขับ จำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้รถคว่ำและบุตรโจทก์ถึงแก่ความตายขอให้ศาลบังคับให้จำเลยทั้ง 2 ชดใช้ค่าใช้จ่ายในการทำศพค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู และค่าทรัพย์สินของบุตรโจทก์ซึ่งสูญหายไป

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การ

จำเลยที่ 2 ให้การว่า รถบรรทุกคันนั้นเป็นของนายกุยฮวดซึ่งมีนายสุนทรเป็นคนขับรถ จำเลยที่ 1 เป็นคนขนของไม่มีหน้าที่ขับรถ ทั้งนายสุนทรและจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของนายกุยฮวดการขับรถของจำเลยที่ 1 ไม่ใช่เป็นการกระทำในทางการที่จ้างคนตายอาศัยนั่งรถโดยไม่ได้เสียค่าโดยสาร จำเลยที่ 2 ไม่ต้องรับผิด คนตายไม่มีทรัพย์สินติดตัว และไม่ได้อุปการะเลี้ยงดูโจทก์

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้ง 2 ชดใช้ค่าทำศพ ค่าทรัพย์สินของบุตรโจทก์ซึ่งสูญหายไป และให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูโจทก์เป็นรายเดือน ๆ ละ 150 บาทเป็นเวลา 10 ปี

โจทก์จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาพิจารณาเห็นว่า จำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้บุตรโจทก์ถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 1 และนายสุนทรเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 มีส่วนเป็นเจ้าของรถคันเกิดเหตุ

การที่นายสุนทรคนขับรถใช้ให้จำเลยที่ 1 ซึ่งมีหน้าที่เป็นคนขนของขับรถแทนนายสุนทรจึงมีหน้าที่ควบคุมรับผิดชอบในการขับรถนั้นไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้รถคว่ำและบุตรโจทก์ถึงแก่ความตายนายสุนทรก็ต้องรับผิดชอบในการละเมิดที่เกิดขึ้น การละเมิดของนายสุนทรนี้ย่อมนับว่าอยู่ในกรอบแห่งทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดในการละเมิดรายนี้

การที่นายกิมเลี้ยงบุตรโจทก์โดยสารรถโดยไม่ได้จ่ายค่าโดยสารไม่เป็นผลทำให้จำเลยพ้นความรับผิดชอบ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่1656-1659/2498

นาฬิกาและปากกาซึ่งนายกิมเลี้ยงมีติดตัวและได้สูญหายไปนั้นการสูญหายนี้เป็นผลโดยตรงจากการละเมิด จำเลยต้องรับผิดชอบใช้ให้โจทก์

การที่บังคับให้จำเลยชำระเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูแก่โจทก์เป็นรายเดือนเป็นเวลา 10 ปีนั้น น่าจะไม่สะดวกและยุ่งยากทั้งโจทก์จำเลย เห็นควรกำหนดให้จำเลยใช้คราวเดียว

จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินค่านาฬิกากับปากกา 1 ชุด เป็นเงิน 1,800 บาท ค่าจัดการศพนายกิมเลี้ยงเป็นเงิน 2,500 บาท และค่าที่โจทก์ขาดอุปการะเลี้ยงดูเป็นเงิน 15,000 บาทให้โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายในชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share