คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1845/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้ามรดกยกที่นาพิพาทให้โจทก์โดยทำหนังสือมอบอำนาจให้ไปจดทะเบียนโอนที่อำเภอ หนังสือมอบอำนาจมีลายพิมพ์นิ้วมือของเจ้ามรดก แต่เจ้ามรดกผู้มอบอำนาจมิได้พิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าพยาน การรับรองลายพิมพ์นิ้วมือจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งเจ้ามรดกมิได้พิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ทำนิติกรรม การมอบอำนาจและการทำนิติกรรมโอนที่นาพิพาทให้แก่โจทก์จึงไม่ชอบ นาพิพาทเป็นทรัพย์ที่ยังไม่ได้แบ่ง โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งเป็นทายาทด้วยคนหนึ่งไม่ได้ และจำเลยฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนดังกล่าวเสียได้.

ย่อยาว

สำนวนแรกโจทก์ทั้งสองฟ้องว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 บุกรุกที่ของโจทก์ขอให้ขับไล่และใช้ค่าเสียหาย สำนวนหลังจำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นโจทก์ฟ้องว่าโจทก์ทั้งสองและจำเลยที่ 1เป็นบุตรนายเพนางจวน จำเลยที่ 2 เป็นสามี จำเลยที่ 1 นายเพนางจวนเป็นเจ้าของที่ดินพิพาท นางจวนและนายเพถึงแก่กรรมแล้วมิได้ยกที่พิพาทให้ใคร โจทก์ทั้งสองและจำเลยได้ครอบครองทำประโยชน์ร่วมกันตลอดมา แต่โจทก์กลับอ้างว่านายเพได้มอบอำนาจให้โจทก์ที่ 1 ทำนิติกรรมโอนที่พิพาทให้แก่โจทก์ทั้งสองซึ่งไม่เป็นความจริง ขอให้เพิกถอนเรื่องราวการจดทะเบียนยกให้ของนายเพและสั่งว่าหนังสือมอบอำนาจเป็นโมฆะ
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยที่ 1 ที่ 2 และบริวารออกจากที่พิพาทและให้ใช้ค่าเสียหายปีละ 2,000 บาทจนกว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับที่พิพาท ให้ยกฟ้องสำนวนหลัง
จำเลยที่ 1 และที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งสองให้เพิกถอนเรื่องราวการจดทะเบียนสิทธินิติกรรมการให้ของนายเพ
โจทก์ทั้งสองฎีกา ก่อนคดีขึ้นสู่ศาลฎีกา ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ที่ 2 เข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ที่ 1 ผู้ถึงแก่กรรม
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำเบิกความของพยานโจทก์ไม่อาจรับฟังได้ว่าใครเป็นผู้เขียนหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.2เพราะโจทก์ที่ 1 ก็เบิกความว่านายตุ่มเป็นผู้เขียน นายตุ่มก็ยืนยันว่าไม่ใช่ลายมือของตนที่พยานต่างเบิกความว่านายเพพิมพ์ลายมือชื่อต่อหน้าพยานจึงไม่น่าเชื่อ นายเฉลียวพยานโจทก์ได้เบิกความว่าโจทก์ที่ 1 เขียนและนำไปให้นายตุ่มและนายวิรัชลงชื่อเป็นพยานที่บ้าน ก็แสดงว่านายเพผู้มอบอำนาจมิได้พิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าพยานทั้งสอง การรับรองอำนาจมิได้พิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าพยานทั้งสอง การรับรองลายพิมพ์นิ้วมือจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และนายเพมิได้พิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ทำนิติกรรม การมอบอำนาจและการทำนิติกรรมโอนที่นาพิพาทให้แก่โจทก์ที่ 2 จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่นาพิพาทจึงเป็นทรัพย์มรดกของนายเพและนางจวนที่ยังมิได้แบ่งให้แก่ทายาท และโจทก์ทั้งสองก็เบิกความว่าจำเลยที่ 2 ผู้เป็นทายาทนายเพและนางจวนคนหนึ่งได้ครอบครองทำประโยชน์ในที่นาพิพาทมาตั้งแต่นายเพยังมีชีวิตอยู่เรื่อยมา จำเลยที่ 2 จึงมีสิทธิรับมรดกนายเพนางจวน โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งทำประโยชน์ในที่นาพิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยที่ 2 ไม่ได้ และเมื่อการโอนที่นาพิพาทให้แก่โจทก์ที่ 2 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ 2 ก็ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนได้
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์ทั้งสองและจำเลยทั้งสามให้เป็นพับกันไปทั้งสามศาล.

Share