แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำร้องขอถอนผู้จัดการมรดกของผู้คัดค้านอ้างว่าทรัพย์มรดกของผู้ตายซึ่งได้แก่ที่ดิน2แปลงผู้ตายได้ยกให้ผู้คัดค้านทั้งสองก่อนผู้ตายถึงแก่ความตายจึงไม่มีทรัพย์มรดกเหลืออีกและผู้ร้องไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกรายนี้ซึ่งถ้าได้ความตามคำร้องขอของผู้คัดค้านกรณีย่อมถือได้ว่าคดีมีเหตุสมควรที่ศาลจะสั่งถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1727
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งแต่งตั้งให้นายวิวัฒน์ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกไม่มีพินัยกรรมของนายลีผู้ตาย ต่อมาผู้คัดค้านทั้งสองยื่นคำร้องขอว่าก่อนที่นายลีถึงแก่ความตายได้แบ่งทรัพย์มรดกให้แก่บุตรของนายลีหมดทุกคนแล้วสำหรับที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 216 กับที่ดิน น.ส.3 นายลียอให้แก่ผู้คัดค้านทั้งสองแล้วเมื่อผู้ร้องได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกได้ดำเนินการฟ้องร้องและขัดขวางการที่ผู้คัดค้านที่ 1ขอรังวัดที่ดินเพื่อขอออก น.ส.3 การกระทำของผู้ร้องเป็นการกระทำที่ไม่สุจริต รบกวนสิทธิของผู้คัดค้านทั้งสอง จึงขอให้ศาลสั่งถอดถอนผู้ร้องออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของนายลีผู้ตาย
ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ให้ยก คำร้องขอ ของ ผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้าน ทั้ง สอง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
ผู้คัดค้าน ทั้ง สอง ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำร้องขอถอนผู้จัดการมรดกของผู้คัดค้านทั้งสองอ้างว่า ทรัพย์มรดกของนายลีผู้ตายซึ่งได้แก่ที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 216 และที่ดิน น.ส.3 เลขที่ 130 นายลีได้ยกให้ผู้คัดค้านทั้งสองก่อนนายลีถึงแก่ความตายจึงไม่มีทรัพย์มรดกเหลืออีก และผู้ร้องไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกรายนี้ ซึ่งถ้าข้อเท็จจริงได้ความตามคำร้องขอของผู้คัดค้านทั้งสอง กรณีย่อมถือได้ว่าคดีมีเหตุสมควรที่ศาลจะสั่งถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ได้
พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องขอของผู้คัดค้านทั้งสองไว้ดำเนินการพิจารณาแล้วมีคำสั่งตามรูปคดี