แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้รับโอนที่ดินและจดทะเบียนการโอน โดยมีหนังสือมอบฉันทะ ซึ่งอ้างว่าเป็นของผู้โอนนั้นปลอม ไม่ถือว่า เป็นการโอนโดยสุจริต ผู้รับโอนไม่ได้สิทธิ ศาลสั่งเพิกถอนการโอนนั้นได้
ใบมอบฉันทะ ซึ่งแม้เดิมผู้มอบจะได้ลงชื่อทำขึ้นจริง แต่หากต่อมาผู้รับโอนอีกคนหนึ่งไปใส่ชื่อของตนเป็นผู้รับโอนที่ดินนั้น ภายหลัง และลับหลังผู้มอบทำให้หนังสือนั้นกลายเป็นหนังสือปลอม.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นางบุญได้เอานาพิพาทตีใช้หนี้ให้โจทก์ โจทก์ครอบครองเป็นเจ้าของมาหลายปีแล้ว จำเลยที่ ๑ ได้โอนนารายนี้ให้จำเลยที่ ๒,๓ โดยอ้างว่าได้รับมอบฉันทะจากนางบุญ ซึ่งเป็นการฉ้อฉลโจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาว่าหนังสือสัญญาโอนที่ดินดังกล่าวเป็นโมฆะ และเพิกถอนทำลายเสีย
ศาลชั้นต้นเห็นว่า นางบุญสละสิทธิให้โจทก์แล้ว จำเลยที่ ๒-๓ ผู้รับโอนไม่ได้กรรมสิทธิ พิพากษาให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายระหว่างจำเลย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ต่อสู้ ผู้ได้สิทธิมาโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนแล้ว ไม่ได้พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า หนังสือขอซื้อขายที่นา และหนังสือมอบฉันทะให้นายจูมจำเลยที่ ๑ โอนที่นานั้นเมื่อทำมาจากนางบุญ ไม่มีชื่อจำเลยที่ ๓ ๆ ได้ตกเติมชื่อว่า นายพรม มาตย์ผดุง ลงไปในเอกสารทั้ง ๒ ฉะบับนั้น ดังนี้ แม้หนังสือมอบฉันทะที่อ้างว่านางบุญทำขึ้นจะเป็นของแท้จริงมาแต่แรก แต่จำเลยที่ ๓ ก็ได้ตกเติมข้อสำคัญลงไปในเอกสารภายหลังและลับหลังผู้ทำหนังสือนั้น ทำให้หนังสือนั้นกลายเป็นหนังสือปลอม ซึ่งจำเลยที่ ๓ จะถือประโยชน์จากหนังสือนั้นไม่ได้ และศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงไม่เชื่อว่า นางบุญได้ทำใบมอบฉันทะนั้น
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามศาลชั้นต้น