คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คู่ความตกลงกันให้ศาลถือคำให้การของนายสมเพียงคนเดียวเป็นข้อเท็จจริงแห่งคดีเพื่อการวินิจฉัยคดีเท่านั้น ศาลต้องถือเอาคำเบิกความของนายสมเป็นยุติในข้อเท็จจริง
สัญญาเช่าที่ไม่มีกำหนดระยะเวลาไว้ ทั้งไม่มีหนังสือเช่าต่อกัน ผู้เช่าและผู้ให้เช่าย่อมบอกเลิกสัญญาเช่าในขณะใดก็ได้ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายบังคับไว้สำหรับการบอกกล่าวล่วงหน้า และการเลิกสัญญาเช่ากันนี้ ถ้าคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้แสดงกิริยาอาการอย่างไร อันเป็นที่เห็นได้ว่าคู่สัญญาตกลงเลิกกันแล้ว สัญญาระหว่างเขาทั้งสองเป็นอันระงับไปในตัว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ให้นายสมเช่าบ้านของโจทก์โดยไม่มีหนังสือสัญญาเช่าต่อกัน นายสมได้เลิกเช่าและคืนบ้านแก่โจทก์แล้วจำเลยเข้ามาอยู่ในบ้านโดยไม่มีสิทธิใด ๆ ขอให้ขับไล่ จำเลยให้การว่า ร้อยเอกเล็กเป็นผู้เช่าบ้านรายนี้ ร้อยเอกเล็กไปราชการสงคราม ได้ให้นายสมเป็นผู้ดูแลแทน ร้อยเอกเล็กให้จำเลยกับบุตรของร้อยเอกเล็กเข้าอยู่อาศัย โดยอาศัยสิทธิของร้อยเอกเล็กจึงได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ พ.ศ. 2489 และ 2490

คู่ความตกลงกัน ขอให้สืบนายสมเพียงปากเดียว ถ้านายสมเบิกความว่าเป็นผู้เช่าบ้านนี้จากโจทก์เป็นส่วนตัว ไม่ใช่แทนนายเล็ก และได้คืนบ้านหลังนี้ให้แก่โจทก์แล้ว จำเลยก็ยอมแพ้ถ้านายสมว่าได้อยู่บ้านหลังนี้โดยอาศัยสิทธิของนายเล็ก และไม่ได้ส่งคืนโจทก์ เป็นแต่มอบให้จำเลยดูแลแทนนายเล็กต่อไปโจทก์ก็ยอมแพ้

นายสมเบิกความว่า ตนย้ายมาอยู่บ้านพิพาทโดยนายเล็กให้อยู่แทนเพราะนายเล็กย้ายไปรับราชการที่เชียงใหม่ นายเล็กให้พยานอยู่จนกว่าจะหาบ้านเช่าได้ใหม่ โจทก์เก็บค่าเช่าในนามของพยาน ๆ ออกเงินส่วนตัวชำระค่าเช่าทุกเดือน อยู่ได้ 1 ปี 8 เดือน โจทก์บอกให้พยานออกไป พยานก็ย้ายไป เมื่อพยานอยู่บ้านได้ราว 1 ปี จำเลยได้ย้ายมาอยู่กับพยาน โดยนายเล็กฝากฝังไว้ก่อนไปเชียงใหม่ พยานได้รับปาก จำเลยมาอยู่ด้วยแล้ว ได้ช่วยออกค่าเช่าให้พยานครึ่งหนึ่ง ตอนพยานย้ายไปจากบ้านพิพาท พยานได้บอกส่งบ้านคืนแก่โจทก์

ศาลชั้นต้นเห็นว่า นายเล็กไม่ได้มอบให้นายสมดูแลแทนดังจำเลยอ้าง นายสมเช่าเป็นส่วนตัวเอง จำเลยอาศัยนายสมอีกต่อหนึ่งพิพากษาขับไล่ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า สัญญาเช่าระหว่างนายเล็กกับโจทก์ ยังไม่ได้เลิกต่อกัน จำเลยเข้าอยู่โดยอาศัยสิทธินายเล็กโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คู่ความตกลงกันให้ศาลถือเอาคำให้การนายสมเพียงคนเดียวเป็นข้อเท็จจริงแห่งคดี เพื่อการวินิจฉัยคดีเท่านั้น

ประเด็นแห่งคดีมีว่า จำเลยได้เข้าอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิการเช่าของนายเล็ก โดยเป็นบริวารหรือมิใช่ ศาลฎีกาเห็นว่าสัญญาเช่าที่ไม่มีกำหนดระยะเวลาไว้ทั้งไม่มีหนังสือเช่าต่อกัน ผู้ให้เช่าและผู้เช่าย่อมบอกเลิกสัญญาเช่าในขณะใดก็ได้ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายบังคับไว้สำหรับการบอกกล่าวล่วงหน้าและการเลิกสัญญาเช่านี้ ถ้าคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้แสดงกิริยาอาการอย่างไรอันเป็นที่เห็นได้ว่าคู่สัญญาตกลงเลิกกันแล้วสัญญาระหว่างเขาทั้งสองนั้นก็เป็นอันระงับไปในตัว ตามพฤติการณ์แห่งคดีที่ปรากฏจากถ้อยคำของนายสมพึงเห็นได้ว่า สัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับนายเล็กได้ระงับสิ้นสุดแล้ว จำเลยจึงอยู่ในบ้านพิพาทโดยไม่มีสิทธิ

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามศาลชั้นต้น

Share