คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2487

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ไนเรื่องขอไห้เพิกถอนการฉ้อกลการขายฝากและการโอน จำเลยต่อสู้ว่าเจ้าหนี้ซาบการขายฝากก่อนครบกำหนดไถ่ถอน โจทมาฟ้องคดีหลังจากครบกำหนดไถ่ถอน ล่วงเลยเวลามาหลายปีดังนี้ ถือว่าจำเลยยกอายุความขึ้นต่อสู้แล้ว จำเลยไม่ต้องเจาะจงว่าคดีขาดอายุความ 1 ปีตามมาตรา 240
อายุความซึ่งลูกหนี้ยกขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้ได้นั้น ย่อมยกขึ้นต่อสู้ผู้รับโอนได้ด้วย

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยเปนหนี้หุ้นส่วนโรงเลื่อย ๑๒๙๕๐ บาท ต่อมา พ.ส.๒๔๗๕ ได้แปลงหนี้เปนหนังสือกู้ ผู้จัการหุ้นส่วนเร่งรัดจำเลยก็ไม่ไช้ จำเลยมีที่ดิน ๓ แปลง เทื่อ พ.ส.๒๔๗๖ ได้ทำสัญญาขายฝากแก่จำเลยที่ ๒ ซึ่งเปนบุตรเขย กำหนดไถ่พายไน ๓ ปี พ.ส.๒๔๘๒ จำเลยที่ ๑ ได้ทำหนังสือ+ปลดเงื่อนไขการไถ่ถอนและทำหนังสือขายกัมสิทธิให้แก่จำเลยที่ ๒ แล้วจำเลยที่ ๒ ได้ทำหนังสือโอนขายที่ดินไห้แก่จำเลยที่ ๓ ผู้เปนภรรยา ฝ่ายโจกได้รับโอนหนี้จากห้างหุ้นส่วนโรงเลื่อน แล้วได้เร่งรัดหนี้และฟ้องเรียกหนี้ที่รับโอนจากจำเลยที่ ๑ เมื่อ พ.ส.๒๔๘๓ สาลพิพากสาไห้จำเลยที่ ๑ ไช้ แล้วโจกจึงมาฟ้องคดีนี้ขอไห้เพิกถอนการโอนระหว่างจำเลยตามประมวนแพ่ง ฯ มาตรา ๑๑๘,๒๓๗
จำเลยที่ ๓ ไห้การว่า ได้ทำการโอนกันโดยสุจริต และจำเลยที่ ๑ ว่า ห้างหุ้นส่วนได้ซาบนิติกัมขายฝากตั้งแต่แรก และก่อนโจทรับโอนสิทธิเรียกร้องเปนเวลานาน ขอไห้ยกฟ้อง และจำเลยที่ ๒,๓. ไห้การว่าจำเดิมแต่การขายฝากกันแล้ว การครอบครองที่ดินตกแก่จำเลยที่ ๒ ตลอดมา ห้างหุ้นส่วนซาบพรึติการน์มาก่อนการไถ่ถอนผ่านพ้นไป โจทไม่มีสิทธิขอเพิกถอนการขอยฝากอันสุจริต และล่วงเวลาไถ่ถอนมาแล้วตั้ง ๕ ปีเสสขอให้ยกฟ้อง ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องว่าคดีโจทขาดอายุความตามมาตรา ๒๔๐ เพราะโจทซาบการขายฝากเกิน ๑ ปี
สาลชั้นต้นไห้เพิกถอนการโอนตามมาตรา ๒๓๗
จำเลยอุธรน์ สาลอุธรน์พิพากสายกฟ้องโดยอ้างว่าคดีขาดอายุความ
โจทดีกา สาลดีกาฟังว่าการกะทำของจำเลยไม่ไช่ทำโดยสแดงเจตนาลวงแล้ววินิฉัยต่อไปว่าตามคำไห้การจำเลยปรากดชัดว่า เจ้าหนี้ซาบการขายฝากก่อนครบกำหนดไถ่ถอนและโจทมาฟ้องคดีหลังจากเวลาครบกำหนดไถ่ถอนล่วงเลยเวลามาหลายปี จะว่าจำเลยไม่ยกอายุความขึ้นต่อสู้อย่างไร ส่วนข้อความตามคำร้องของจำเลยเพียงเจาะจงกำหนดเวลาแลบทกดหมายลงไป ซึ่งสาลดีกาเห็นว่า ข้อความตามคำร้องขึ้นจำเลยไม่จำเปนต้องกล่าวอีก เพระาเมื่อจำเลยต่อสู้ไว้แล้วว่า เจ้าหนี้เดิมซาบการขายฝากแล้วหลายปี โจทจึงมาฟ้องคดี ก็เปนหน้าที่อขงสาลจะต้องวินิฉัยว่า จะยกเอากดหมายใดมาปรับคดี และอายุความมีกำหนดเท่าได จึงพิพากสายืนตามสาลอุธรน์

Share