แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จับไม้สักซึ่งเลื่อยเป็นไม้เหลี่ยมได้ที่จำเลยโดยไม่มีดวงตราประทับที่ไม้นั้น หน้าที่นำสืบหาตกอยู่แก่จำเลยที่จะต้องแสดงบริสุทธิว่าไม้ของกลางนั้นได้เสียภาษีค่าตอและมีดวงตราของเจ้าพนักงานแล้วไม่
ย่อยาว
ได้ความว่าเจ้าพนักงานป่าไม้ไปพบไม้สักซึ่งเลื่อยเป็นเหลี่ยมแล้วของจำเลยโดยไม่มีดวงตราอย่างใดประทับที่ไม้นั้น โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ป้องกันการลักลอบซักลากไม้ลักออกจากป่าที่ยังไม่ได้เสียค่าตอและภาษี ร.ศ.๑๑๘ ข้อ ๓,๔,๕
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ปรับจำเลยตาม ข้อ ๓,๕ แห่งกฎหมายข้างต้นเป็นพินัย ๓๐๐ บาท
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ ว่าจะยกเอาข้อ ๕ มาใช้เป็นความสันนิษฐานในไม้ของกลางรายนี้ที่เลื่อยเป็นเหลี่ยมแล้วไม่ได้ ข้อความในข้อนั้นหมายถึงไม้ต้นที่ยังมิได้เลื่อยเป็นท่อนเป็นแผ่น ทั้งตายธรรมดาไม้ที่เลื่อยเปิดนึกออกเป็นท่อนเป็นแผ่นย่อมเปลี่ยนสภาพจากไม้ต้นแล้ว ดวงตราของเจ้าพนักงานย่อมไม่มีติดที่ไม้นั้นเมื่อเอาความสันนิษฐานข้อ ๕ มาใช้บังคับมิได้แล้ว โจทก์ซึ่งเป็นผู้กล่าวหาย่อมมีหน้าที่นำสืบ แต่โจทก์สืบไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ชักลากไม้รายนี้เมื่อวันใดเดือนใดและไม้รายนี้ได้เสียค่าตอและภาษีภาคหลวงแล้วหรือไม่ จำเลยเสียอีกกลับนำพะยานมาสืบแสดงความบริสุทธิดียิ่งกว่าโจทก์ จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง