แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 74 บัญญัติเฉพาะในเรื่องริบของกลางอันได้มาหรือมีไว้เนื่องจากการกระทำผิดแต่ในเรื่องที่มีผู้มาร้องขอให้สั่งคืนของกลางที่ศาลสั่งริบไปแล้ว พระราชบัญญัติป่าไม้ดังกล่าวไม่มีบทบัญญัติไว้เป็นพิเศษ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ประกอบด้วยมาตรา 17 ซึ่งเป็นบททั่วไป ดังนั้น แม้ศาลจะฟังว่าถ่านของกลางได้มาจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ และได้สั่งริบไปแล้ว ผู้ร้องซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของเป็นบุคคลภายนอกคดี ไม่มีโอกาสต่อสู้คดีกับโจทก์ ย่อมใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ที่จะร้องขอให้ศาลสั่งคืนของกลางแก่ผู้ร้องได้
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคืนถ่านของกลาง โดยอ้างแต่เพียงว่าถ่านของกลางที่ศาลสั่งริบเป็นของผู้ร้องเท่านั้น มิได้อ้างว่าไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด เป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ศาลจะสั่งคืนของกลางให้แก่ผู้ร้องไม่ได้ ต้องยกคำร้อง
ย่อยาว
คดีนี้ สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหากระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ แต่ให้ริบถ่าน ๑๘๐ กระสอบของกลางที่ได้มาโดยการกระทำผิด นายเซียงฮวด แซ่เอี๊ยบ จึงยื่นคำร้องว่าถ่านของกลางที่ศาลสั่งริบเป็นของผู้ร้อง โดยผู้ร้องเป็นนายจ้างของจำเลยได้มอบให้จำเลยนำไปขาย ขอให้คืนถ่านของกลางแก่ผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นสั่งว่า ถ่านของกลางเป็นถ่านที่ได้มาโดยการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ซึ่งศาลสั่งริบไปแล้ว จะสั่งคืนไม่ได้ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นมิได้ไต่สวนคำร้องขอคืนถ่านของกลางตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖ เป็นการไม่ถูกต้องพิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๗๔ เป็นบทบัญญัติในเรื่องริบของกลางอันได้มาหรือมีไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัตินี้ เมื่อมีผู้มาร้องขอคืนของกลางที่ศาลสั่งริบไปแล้วพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ ไม่มีบทบัญญัติไว้เป็นพิเศษ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖ ประกอบด้วยมาตรา ๑๗ ซึ่งเป็นบทบัญญัติทั่วไป นอกจากนี้แม้ศาลจะฟังว่าถ่านของกลางได้มาจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้และได้สั่งริบไปแล้วก็ดี แต่ผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอกไม่มีโอกาสต่อสู้คดีกับโจทก์ ผู้ร้องซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของย่อมใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖ ที่จะร้องขอให้ศาลสั่งคืนถ่านของกลางแก่ผู้ร้องได้แต่ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องอ้างแต่เพียงว่าถ่านของกลางที่ศาลสั่งริบเป็นของผู้ร้องเท่านั้น โดยมิได้อ้างว่ามิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดเป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๖๘๖/๒๕๑๖ ศาลไม่อาจที่จะสั่งคืนของกลางแก่ผู้ร้องได้ จึงไม่จำเป็นต้องไต่สวนคำร้องของผู้ร้องต่อไป
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นให้ยกคำร้องของผู้ร้อง