แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยและให้ริบของกลางตาม พ.ร.บ.การพนัน เมื่อปรากฏว่าผู้อื่นเป็นเจ้าของของกลางและมิได้รู้เห็นยินยอมในการกระทำผิด-ด้วยแล้ว เจ้าของชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้ศาลสั่งคืนของกลางนั้นแก่ตนและศาลก็ย่อมสั่งให้คืนของกลางแก่เจ้าของได้
ย่อยาว
คดีนี ้โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยทั้งสามสมคบกันเล่นการพนันประเภทบิลเลียด ก่อนเวลาที่กฎกระทรวงกำหนดให้เลน พะนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นการผิดเงื่อนไข จึงขอให้ลงโทษและริบของกลาง
จำเลยทั้งสามรับสารภาพ
ศาลชั้นตนพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องและริบของกลาง
นายกิมเต็ก หรือ เต็ก แซ่โค้ว ร้องต่อศาลว่าโต็ะบิลเลียดและของกลางอื่นที่ศาลสั่งริบเป็นของผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจยินยอมอนุญาตให้จำเลยทำการเล่นพนันดังโจทก์ฟ้องจึงขอให้ศาลสั่งคืนผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว ฟังว่า ผู้ร้องรู้เห็นยินยอมให้จำเลยเล่นการพนันรายนี้ จึงให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้คืนของกลางแก่ผู้ร้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดียังไม่มีหลักฐานเพียงพอให้ฟังว่า ผู้ร้องได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดรายนี้จึงพิพากษายื่นให้คืนของกลางให้ผู้ร้อง