คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

นางสาว ข. พยานโจทก์มาเบิกความตอบคำซักถามของโจทก์แล้วไม่มาให้จำเลยถามค้านแต่โจทก์ส่งคำให้การ ของนางสาว ข. ต่อศาล โดยมีพนักงานสอบสวนเบิกความรับรองว่านางสาว ข. ให้การไว้เช่นนั้นจริง ทั้งตามคำให้การชั้นสอบสวนของนางสาว ข. ดังกล่าวสอดคล้องกับที่เบิกความตอบคำซักถามของโจทก์ จึงนำคำเบิกความของนางสาว ข. ที่ตอบคำซักถามของโจทก์มารับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ได้ จำเลยไม่ใช่เจ้าพนักงาน การที่จำเลยร่วมกับพวกซึ่งเป็น เจ้าพนักงานกระทำความผิด จำเลยย่อมมีความผิดฐานสนับสนุน เจ้าพนักงานในการกระทำผิดนั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 86, 91, 145, 148, 157, 309, 310, 337 ให้จำเลย คืนเงินจำนวน 267,500 บาท แก่ผู้เสียหาย และให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 8617/2529 ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 145 วรรคแรก, 148 ประกอบด้วยมาตรา 86, มาตรา 309 วรรคสอง, 310 วรรคแรก และมาตรา 337(1)(2) ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ประกอบด้วยมาตรา 86 ที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 10 ปี ให้จำเลยคืนเงิน 264,500 บาท แก่ผู้เสียหาย ส่วนที่ขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีหมายเลขดำที่ 8617/2529 ของศาลชั้นต้น ปรากฏว่าคดีดังกล่าวศาลยกฟ้อง จึงให้ยกคำขอของโจทก์ส่วนนี้
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นคนร้ายร่วมกันทำผิดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่าที่จำเลยฎีกาว่า นางสาวขวัญเรือนพยานโจทก์มาเบิกความตอบคำซักถามของโจทก์แล้วไม่มาให้จำเลยถามค้าน รับฟังคำเบิกความพยานปากนี้ไม่ได้นั้น เห็นว่า แม้โจทก์ไม่อาจนำตัวนางสาวขวัญเรือนมาให้จำเลยถามค้าน แต่โจทก์ได้ส่งคำให้การชั้นสอบสวนของนางสาวขวัญเรือนต่อศาล โดยมีพันตำรวจตรีปิยะพล โมกขวรรธนะ พนักงานสอบสวนเบิกความรับรองว่านางสาวขวัญเรือนให้การไว้เช่นนั้นจริง ทั้งตามคำให้การชั้นสอบสวนของนางสาวขวัญเรือนตามเอกสารดังกล่าวสอดคล้องกับที่เบิกความตอบคำซักถามของโจทก์ จึงนำคำเบิกความของนางสาวขวัญเรือนที่ตอบคำซักถามของโจทก์มารับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ได้ ส่วนข้อที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยไม่ใช่เจ้าพนักงานไม่อาจมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานในการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148ประกอบมาตรา 86 ได้นั้น เห็นว่า แม้ว่าจำเลยจะไม่ใช่เจ้าพนักงานแต่การที่จำเลยร่วมกับพวกซึ่งเป็นเจ้าพนักงานกระทำความผิด จำเลยย่อมมีความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานในการกระทำความผิดนั้นได้
พิพากษายืน

Share