คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1803/2549

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

แม้ท้ายคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของจำเลยจะมีหมายเหตุข้อความว่า ข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอถือว่าทราบแล้ว แต่การที่ศาลชั้นต้นมิได้มีคำสั่งคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของจำเลยในวันเดียวกันกับที่จำเลยยื่นคำร้อง ศาลชั้นต้นจึงมีหน้าที่ต้องแจ้งคำสั่งให้จำเลยทราบ เมื่อไม่ได้มีการแจ้งคำสั่งของศาลชั้นต้นให้จำเลยทราบ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวแล้ว เมื่อจำเลยไม่ทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของจำเลยโดยมิได้เป็นความผิดของจำเลย ทำให้จำเลยทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลายื่นอุทธรณ์แล้ว จึงเสียสิทธิที่จะยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลาที่ยังเหลืออยู่ ปัญหานี้เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกา แต่เมื่อศาลฎีกาเห็นสมควร ย่อมจะยกขึ้นได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 247 ประกอบมาตรา 246 และ 142 (5) กรณีมีเหตุสมควรที่จะขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้แก่จำเลย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 30 กันยายน 2541 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้ยกฟ้องแย้งครบกำหนดยื่นอุทธรณ์วันที่ 13 มกราคม 2545 วันที่ 7 มกราคม 2545 จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ไปอีก 30 วัน นับถัดจากวันที่ 12 มกราคม 2545
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันที่ 10 มกราคม 2545 ว่า คดีนี้ศาลได้พิมพ์คำพิพากษาเสร็จในวันนัดฟังคำพิพากษาแล้ว เหตุผลในคำร้องเป็นเพียงข้ออ้างลอยๆ ไม่ปรากฏหลักฐานยืนยัน ไม่อนุญาตให้ขยายเวลาอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงได้ความว่า ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2544 วันที่ 7 มกราคม 2545 จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์อีก 30 วัน นับถัดจากวันที่ 12 มกราคม 2545 ศาลชั้นต้นมิได้มีคำสั่งในวันเดียวกันกับที่จำเลยยื่นคำร้อง แต่มีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลยในวันที่ 10 มกราคม 2545 ต่อมาวันที่ 16 มกราคม 2545 จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นอ้างว่า จำเลยทราบคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องของจำเลยในวันที่ 15 มกราคม 2545 เห็นว่า แม้ท้ายคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของจำเลยจะมีหมายเหตุข้อความว่า ข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอถือว่าทราบแล้ว ก็ตาม แต่การที่ศาลชั้นต้นมิได้มีคำสั่งคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของจำเลยในวันเดียวกันกับที่จำเลยยื่นคำร้อง ศาลชั้นต้นจึงมีหน้าที่ต้องแจ้งคำสั่งให้จำเลยทราบ ข้อเท็จจริงได้ความว่าไม่ได้มีการแจ้งคำสั่งของศาลชั้นต้นให้จำเลยทราบแต่อย่างใด จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวแล้ว เมื่อจำเลยไม่ทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของจำเลยโดยมิได้เป็นความผิดของจำเลยทำให้จำเลยทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลายื่นอุทธรณ์แล้วจึงเสียสิทธิที่จะยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลาที่ยังเหลืออยู่ ปัญหานี้เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกา แต่เมื่อศาลฎีกาเห็นสมควร ย่อมจะยกขึ้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 ประกอบมาตรา 246 และ 142 (5) กรณีมีเหตุสมควรที่จะขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้แก่จำเลย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยขยายระยะเวลาอุทธรณ์นั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษากลับให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยขยายระยะเวลาอุทธรณ์และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ อนุญาตให้จำเลยขยายระยะเวลาอุทธรณ์มีกำหนด 15 วัน นับแต่วันฟังคำพิพากษาศาลฎีกา แล้วให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไปตามกฎหมาย

Share