แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
โจทก์เป็นตัวแทนของจำเลยในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯจำเลยจะปฏิเสธไม่ยอมชดใช้เงินทดรองให้โจทก์ได้ก็เฉพาะเมื่อเงินทดรองนั้นมิใช่เป็นการจำเป็นหรือจำเลยไม่ต้องรับผิดชดใช้เงินทดรองนั้นด้วยเหตุประการอื่นทั้งไม่ปรากฏว่าการที่โจทก์ซื้อขายหุ้นแทนจำเลยโดยไม่ได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1129นั้นเป็นการผิดหน้าที่ของตัวแทนหรือทำให้จำเลยเสียผลประโยชน์ดังนั้นจำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้เงินทดรองที่โจทก์ได้ออกไปก่อนรวมทั้งดอกเบี้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา816. การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯตามปกติแม้จะมีการเก็งกำไรกันและมีลักษณะเป็นการเสี่ยงโชคอยู่บ้างก็หาใช่เป็นการพนันขันต่อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา853ไม่(อ้างฎีกาที่2523/2527). ความมุ่งหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1129วรรคสองที่บัญญัติว่าการโอนหุ้นชนิดระบุชื่อถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อของผู้โอนกับผู้รับโอนมีพยานคนหนึ่งอย่างน้อยลงชื่อรับรองลายมือชื่อเป็นโมฆะนั้นเป็นการกำหนดแบบของการโอนหุ้นว่าจะต้องทำอย่างไรจึงจะได้มีหลักฐานการโอนที่แน่นอนเท่านั้นหาใช่เป็นแบบของการซื้อขายหุ้นไม่ผู้ซื้อหุ้นที่มิได้ทำการโอนให้ถูกต้องตามบทบัญญัติดังกล่าวยังไม่อาจอ้างว่าเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทยังไม่อาจใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นในบริษัทตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติไว้เท่านั้นแต่หาถึงกับทำให้การซื้อขายหุ้นเป็นโมฆะไปด้วยไม่.
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ เป็น สมาชิก ตลาดหลักทรัพย์ แห่ง ประเทศไทยจำเลย เป็น ลูกค้า ของ โจทก์ ได้ มอบหมาย ให้ โจทก์ ซื้อ ขาย หุ้น แทนจำเลย เมื่อ คิด บัญชี แล้วจำเลย เป็น หนี้ โจทก์ ขอ ให้ จำเลย ชำระหนี้พร้อม ดอกเบี้ย
จำเลย ให้การ ว่า การ ซื้อ ขาย หุ้น ตาม ที่ โจทก์ อ้าง เป็น โมฆะเพราะ การ โอน หุ้น มิได้ ปฏิบัติ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1129 วรรคสอง และ เป็น การพนัน ขันต่อ จำเลย จึง ไม่ ต้อง รับผิด
ศาลชั้นต้น พิพากษา ยกฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา กลับ ให้ จำเลย ชำระเงิน พร้อม ดอกเบี้ย ตาม ฟ้องแก่ โจทก์
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า โจทก์ ซื้อขาย หุ้น ของ บริษัท ต่างๆ ในตลาด หลักทรัพย์ฯ ตาม ที่ จำเลย สั่ง และ โจทก์ ได้ ออก เงิน ทดรองแทน จำเลย ไป ตาม ที่ โจทก์ ฟ้อง เมื่อ โจทก์ เป็น ตัวแทน ของ จำเลยใน การ ซื้อ ขาย หุ้น ใน ตลาด หลักทรัพย์ฯ จำเลย ต้อง รับผิด ชดใช้เงิน ทดรอง ที่ โจทก์ ได้ ออก ไป ก่อน รวมทั้ง ดอกเบี้ย ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 816 จำเลย จะ ปฏิเสธ ไม่ ยอม ชดใช้เงิน ทดรอง ให้ โจทก์ ได้ ก็ เฉพาะ เมื่อ เงิน ทดรอง นั้น มิใช่ เป็นการ จำเป็น หรือ จำเลย ไม่ ต้อง รับผิด ชดใช้ เงิน ทดรอง นั้น ด้วยเหตุ ประการ อื่น ซึ่ง จำเลย หา ได้ โต้แย้ง ว่า เงิน ทดรอง ที่ โจทก์เรียกร้อง เป็น การ ไม่ จำเป็น
ที่ จำเลย อ้าง ว่า การ ซื้อ ขาย หุ้น ใน ตลาด หลักทรัพย์ฯ เป็นการพนัน ขันต่อ จำเลย จึง ไม่ ต้อง รับผิด นั้น ศาลฎีกา เห็นว่าการ ซื้อ ขาย หุ้น ใน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตาม ปกติ แม้ จะ มี การ เก็ง กำไรกัน และ มี ลักษณะ เป็น การ เสี่ยงโชค อยู่ บ้าง ก็ หา ใช่ เป็น การพนันขันต่อ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 853 ไม่
ส่วน ที่ จำเลย อ้าง ว่า การ ซื้อ ขาย หุ้น ของ โจทก์ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็น การ โอน ลอย ไม่ ได้ ปฏิบัติ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 จึง เป็น โมฆะ นั้น เห็นว่าความ มุ่งหมาย ของ บทบัญญัติ ดังกล่าว ใน วรรคสอง ที่ บัญญัติ ว่าการ โอนหุ้น ชนิด ระบุ ชื่อ ถ้า มิได้ ทำ เป็น หนังสือ และ ลงลายมือชื่อของ ผู้โอน กับ ผู้รับโอน มี พยาน คนหนึ่ง อย่างน้อย ลงชื่อ รับรองลายมือชื่อ เป็น โมฆะ นั้น เป็น การ กำหนด แบบ ของ การ โอน หุ้น ว่าจะ ต้อง ทำ อย่างไร จึง จะ ได้ มี หลักฐาน การ โอน ที่ แน่นอน เท่านั้นหา ใช่ แบบ ของ การ ซื้อ ขาย หุ้น ไม่ ผู้ ซื้อหุ้น ที่ มิ ทำการ โอนให้ ถูกต้อง ตาม บทบัญญัติ ดังกล่าว ยัง ไม่ อาจ อ้าง ว่า เป็น ผู้ถือหุ้น ใน บริษัท ยัง ไม่ อาจ ใช้ สิทธิ ใน ฐานะ ผู้ ถือหุ้น ใน บริษัทตาม ที่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บัญญัติ ไว้ เท่านั้น แต่ หา ถึงกับ ทำ ให้ การ ซื้อขาย หุ้น เป็น โมฆะ ไป ด้วย ไม่ ตาม ข้อเท็จจริงใน คดี นี้ ก็ มิใช่ เป็น กรณี ที่ จำเลย ให้ โจทก์ ซื้อ หุ้น ให้ เพื่อจะ ใช้ สิทธิ ใน ฐานะ ผู้ ถือหุ้น หาก แต่ เป็น การ ซื้อ แล้ว ขาย ไปเพื่อ ผล กำไร เท่านั้น ซึ่ง ใน ปัญหา นี้ ศาลฎีกา ได้ วินิจฉัย ไว้เป็น บรรทัดฐาน แล้ว ว่า การ ซื้อ ขายหุ้น ใน ตลาดหลักทรัพย์ หา ต้องปฏิบัติ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 ไม่ ทั้ง ไม่ ปรากฏว่า การ ที่ โจทก์ ซื้อ ขาย หุ้น แทน จำเลย โดย ไม่ ได้ ปฏิบัติ ตามมาตรา 1129 นั้น เป็น การ ผิด หน้าที่ ของ ตัวแทน หรือ ทำ ให้ จำเลยเสีย ผลประโยชน์ อย่างใด อัน จะ ทำ ให้ จำเลย ไม่ ต้อง รับผิด ชดใช้เงิน ทดรอง ให้ แก่ โจทก์ ไม่ นอกจาก นั้น คดี ก็ ไม่ มี ประเด็นเรื่อง กรรมสิทธิ์ ใน หุ้น หรือ ประเด็น เรื่อง การ รอนสิทธิ ตาม สัญญาซื้อขาย แต่ อย่างใด จำเลย จึง อ้าง มาตรา 453 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มา ปฏิเสธ ความ รับผิด ต่อ โจทก์ หา ได้ ไม่เมื่อ การ ซื้อ ขาย หุ้น ของ โจทก์ มิได้ ผิด กฎหมาย หรือ เป็น โมฆะอัน จะ มี ผล ให้ จำเลย ไม่ ต้อง รับผิด ต่อ โจทก์ ดังกล่าว มา แล้วการ ที่ จำเลย อ้าง ว่า โจทก์ ไม่ มี อำนาจ ทำการ แทน ตาม มาตรา 797แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อ ปฏิเสธ ความ รับผิด ของ จำเลยก็ ฟัง ไม่ ขึ้น เช่นกัน
พิพากษา ยืน.