คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1790/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ภรรยาผู้ตายได้เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าฆ่าผู้ตาย โดยเจตนา ศาลชั้นต้นรับฟ้องไว้ไต่สวนมูลฟ้องแล้ว ต่อมาศาลได้อนุญาตให้ภรรยาผู้ตายถอนฟ้องแล้ว บิดามารดาของผู้ตายจะกลับมาฟ้องขอให้ลงโทษ จำเลยในความผิดฐานเดียวกันหาได้ไม่ เพราะถือว่าได้ถอนคดีอาญาไปจากศาลตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 36.

ย่อยาว

คดีนี้ เกี่ยวกับคดีอาญาดำที่ ๒๒๑/๒๔๙๑ ซึ่งนางโป๊ะ, นางทุเรียน, นางฮวย เป็นโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันยิงนายเชื้อ, นายชิต, นายขวัญสามีโจทก์แต่ละคนตามลำดับตายโดยเจตนาฆ่า ศาลไต่สวนสั่งประทับฟ้อง แล้วโอนคดีมาไต่สวนที่ศาลอาญา ก่อนศาลอาญาไต่สวนพะยาน นางโป๊ะกับพวกโจทก์ได้ขอถอนฟ้อง ศาลสั่งอนุญาต ต่อมานายแอโจทก์ในคดีนี้เป็นบิดานายเชื้อ,นายชิตผู้ตาย นางก่อยเป็นมารดานายขวัญผู้ตาย ได้ยื่นฟ้องมีข้อหาเช่นเดียวกับคดีก่อนที่นางโป๊ะกับพวกเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์ซึ่งจะเป็นบิดามารดาผู้ตายจะมาฟ้องคดีนี้ซ้ำอีกไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๓๖ จึงไม่รับฟ้องไว้พิจารณา ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ในคดีก่อนศาลชั้นต้นได้รับฟ้องไว้ไต่สวนมูลฟ้องแล้ว จึงถือว่าได้มีการฟ้องคดีอาญาต่อศาลโดยถูกต้องแล้ว เมื่อภายหลัง ศาลอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องไปแล้ว ก็ถือว่าได้ถอนคดีอาญาไปจากศาลตาม ป.ม.ว.อาญามาตรา ๓๖ จะนำมาฟ้องอีกหาได้ไม่ เว้นแต่จะเข้าข้อยกเว้น แต่เรื่องนี้ไม่เข้าข้อยกเว้นข้อหนึ่งข้อใด
พิพากษายืน.

Share