คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1787/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การตั้งโรงงานแปรรูปไม้ซึ่งมิใช่ไม้หวงห้ามโดยได้รับอนุญาตจากกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว จะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ด้วย เพราะตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2518 มาตรา 19นั้น การตั้งโรงงานแปรรูปไม้จะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้เสมอไปมิฉะนั้นถือเป็นความผิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น เพียงแต่มีการตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ แม้ยังมิได้แปรรูปไม้ก็เป็นความผิดสำเร็จแล้ว โรงงานแปรรูปไม้ที่ตั้งขึ้นจะใช้แปรรูปไม้หวงห้ามหรือมิใช่ไม้หวงห้ามจึงไม่เป็นข้อสำคัญ สำหรับพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 50(4) แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 116 ลงวันที่ 10 เมษายน 2515 ข้อ 6 นั้นเป็นข้อยกเว้นเฉพาะกรณีการแปรรูปไม้และมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองเท่านั้น ส่วนการตั้งโรงงานแปรรูปไม้หาได้อยู่ในข่ายข้อยกเว้นตามบทมาตราดังกล่าวไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจตั้งโรงงานแปรรูปไม้ยางพาราโดยใช้เครื่องจักรกลจำนวน 1 โรงในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติป่าไม้และจำเลยได้ทราบประกาศนั้นแล้วโดยจำเลยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48, 73, 74 ทวิ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 18 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5)พ.ศ. 2518 มาตรา 19 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2522 มาตรา 7ประกาศกระทรวงเกษตร เรื่องกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ริบของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพและแถลงว่า จำเลยได้แปรรูปไม้ยางพาราจริงแต่เข้าใจว่าไม่ผิดกฎหมายเพราะไม้ยางพาราไม่ใช่ไม้หวงห้ามและจำเลยมีใบอนุญาตตั้งโรงงานกับมีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมออกให้

โจทก์แถลงรับว่า ไม้ยางพาราไม่ใช่ไม้หวงห้าม จำเลยมีใบอนุญาตให้ตั้งและประกอบกิจการโรงงานจริง โดยประกอบกิจการทำลังไม้

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า มาตรา 50(4) แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้บัญญัติว่าบทบัญญัติแห่งมาตรา 84 มิให้ใช้บังคับในกรณีการแปรรูปไม้หรือมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองที่มิใช่ไม้หวงห้าม การตั้งโรงงานแปรรูปไม้ยางพาราซึ่งไม่ใช่ไม้หวงห้าม และได้รับอนุญาตให้ตั้งและประกอบกิจการโรงงานแล้วไม่ต้องขออนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้อีก การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง ของกลางคืนจำเลย

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48, 73 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518มาตรา 19 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2522 มาตรา 7 ให้ลงโทษปรับ4,000 บาท ลดโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ2,000 บาท ริบเครื่องยนต์เลื่อยวงเดือนและสายสะพานของกลางส่วนไม้ยางพาราแปรรูปมีไว้ไม่เป็นความผิด ให้คืนเจ้าของ

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การตั้งโรงงานแปรรูปไม้ซึ่งมิใช่ไม้หวงห้ามโดยได้รับอนุญาตจากกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว จะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 อีกหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นพ้องกับคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ว่า พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518 มาตรา 19บัญญัติไว้ชัดว่า “ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ห้ามมิให้ผู้ใดแปรรูปไม้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ ตั้งโรงค้าไม้แปรรูป มีไม้สักแปรรูปไม่ว่าจำนวนเท่าใดไว้ในครอบครองหรือมีไม้แปรรูปชนิดอื่นเป็นจำนวนเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตรไว้ในครอบครองเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” จากบทบัญญัติมาตรานี้เห็นได้ว่า การตั้งโรงงานแปรรูปไม้จะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เสมอไปมิฉะนั้นถือเป็นความผิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นเพียงแต่มีการตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ แม้จะยังมิได้แปรรูปไม้ก็เป็นความผิดสำเร็จแล้วโรงงานแปรรูปไม้ที่ตั้งขึ้นจะใช้แปรรูปไม้หวงห้ามหรือมิใช่ไม้หวงห้ามจึงไม่เป็นข้อสำคัญ สำหรับพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 มาตรา 50(4) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 116 ลงวันที่ 10 เมษายน 2515 ข้อ 6 บัญญัติว่า บทบัญญัติแห่งมาตรา 48 มิให้ใช้บังคับในกรณีการแปรรูปไม้หรือมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองที่มิใช่ไม้หวงห้ามนั้น เห็นว่าเป็นข้อยกเว้นเฉพาะกรณีการแปรรูปไม้ และมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองเท่านั้น กล่าวคือถ้าเป็นไม้ที่มิใช่ไม้หวงห้ามย่อมแปรรูปหรือมีไว้ในครอบครองได้โดยไม่ต้องรับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ส่วนการตั้งโรงงานแปรรูปไม้หาได้อยู่ในข่ายข้อยกเว้นตามบทมาตราดังกล่าวไม่

พิพากษายืน

Share