แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เข้าครอบครองที่ดินโดยไม่+จริตภายหลังที่มีผู้ขอประทานบัตร์ทำเหมืองแร่นั้น เมื่อได้รับประทานบัตร์แล้ว ผู้รับประทานบัตร์ย่อมฟ้องขอห้ามมิให้ผู้ครอบครองเกี่ยวข้องเป็นการขัดขวางต่อสิทธิการทำเหมืองแร่ได้ (อ้างฎีกาที่ 868/2456) โจทก์ฟ้องขอห้ามมิให้เกี่ยว+กับที่ดิน ศาลตัดสินไม่ให้เกี่ยวข้องฉะเพาะในการขัดขวางต่อสิทธิการทำเหมืองแร่ได้ ไม่เป็นการนอกคำขอ.
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องขับไล่และขอให้ห้ามจำเลยไม่ให้เข้าเกี่ยวข้องในที่รายพิพาทซึ่งอยู่ในเขตต์ประทานบัตร์ของโจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าเป็นที่ซึ่งจำเลยปกครองมากว่า ๑๐ ปีแล้ว.
ศาลชั้นต้นฟังว่าที่พิพาทอยู่นอกเขตต์ประทานบัตร์ ให้ยกฟ้อง.
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยเข้าก่นสร้างที่พิพาทภายหลังโจทก์ขอประทานบัตร์ จึงพิพากษาห้ามไม่ให้จำเลยเข้าเกี่ยวข้องฉะเพาะที่เป็นการขัดขวางสิทธิทำเหมืองแร่ของโจทก์ แต่มีความเห็นแย้ง.
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ขอประทานบัตร์เมื่อ ปี ๒๔๗๗ เจ้าพนักงานได้ประกาศในปีนั้นให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องคัดค้านภายใน ๑๕ วัน จำเลยเพิ่งเข้าอยู่ในที่พิพาทเมื่อปี ๒๔๘๑ ภายหลังวันใช้พระราชบัญญัติที่ดินฉะบับที่ ๖ โดยมิได้ขอรับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยมิได้ใช้สิทธิโดยสุจริต โจทก์ได้เพียรพยายามดำเนินการมาแต่แรกโดยสุจริต แม้รับประทานบัตร์ภายหลังจำเลยเข้าครอบครองก็มีสิทธิเข้าทำเหมืองแร่ตามจำนวนในประทานบัตร์และตามพระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่และการที่โจทก์มีคำขอห้ามอย่าให้จำเลยเกี่ยวข้องทำสิ่งใดในที่พิพาท ศาลพิพากษาห้ามฉะเพาะกรณีที่จะเป็นการขัดขวางสิทธิของโจทก์ในอันที่จะทำเหมืองแร่นั้น ไม่เป็นการนอกคำฟ้อง จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์.