แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายมีนิสัยเป็นคนพาลเที่ยวคามระรานจำเลย ก่อนตาย ได้ชกจำเลยด้วยสนับมือและเตะจำเลยๆ จึงหยิบไม้ฟืนที่ทางตีผู้ตายไป 4 – 5 ทีเพื่อป้องกันชีวิตจำเลยให้พ้นภยันตรายซึ่งถูกผู้ตายเป็นผู้ก่อขึ้นผุ้ตายล้มลงแล้วจำเลยก็มิได้ตีซ้ำอีก แม้ไม้ฟืนที่จำเลยตีผู้ตายไปถูกที่สำคัญ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยก็ยังเป็นการป้องกันไม่เกินสมควรแก่เหตุ จึงไม่ควรลงโทษแก่จำเลย
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนส ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙ จำเลยต่อสู้ว่า กระทำการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ จึงพิพากษาลงโทษจำคุก ๓ ปี ตามมาตรา ๒๔๙, ๕๓.
ศาลอุทธรณ์ ฟังว่า จำเลยป้องกันตัวพอสมควรได้รับการยกเว้นโทษตามมาตรา ๕๐ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ตามมีนิสัยเป็นคนพาลเที่ยวตามระรานจำเลย ก่อนตายได้ชกจำเลยด้วยสนับมือและเตะจำเลยๆจึงหยิบไม้ฟืนที่ทาง ตีผู้ตายไป ๔ – ๕ ที เพื่อป้องกันชีวิตจำเลยเลยให้พ้นภยันตราย ซึ่งผู้ตายเป็นผู้ก่อขึ้น ผู้ตายล้มแล้ว จำเลยก็มิได้ตีซ้ำอีก แม้ไม้ฟืนที่จำเลยตีผู้ตายไปถูกที่สำคัญ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยก็ยังป้องกันไม่เกินสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงอาญาแก่จำเลย
จึงพิพากษายืน