แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในฟ้องของโจทก์ระบุว่าจำเลยกำลังต้องคำพิพากษาในคดีอื่น แต่ท้ายฟ้องไม่ได้ขอให้พิพากษาต่อจากคดีเหล่านั้น ศาลจะให้นับโทษต่อไม่ได้โจทก์จะยื่นคำร้องขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีอื่นภายหลังที่ศาลพิพากษาคดีแล้วไม่ได้
ย่อยาว
คดีนี้ศาลพิพากษาจำคุกจำเลย ๓ เดือนตามมาตรา ๓๒๑-๗๒-๕๙ ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่า คดีนี้ศาลพิพากษาเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๔๘๓ ศาลออกหมายสังขังนับโทษตั้งแต่วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๔๘๓ ปรากฏตามฟ้องข้อ ๒ ของโจทก์ว่า จำเลยต้องพิพากษาให้จำคุก ๓ ปี นับแต่ วันที่ ๑๘ กันยายน ๒๔๘๓ โจทก์จึงขอให้นับโทษต่อจากคดีที่กล่าวแล้ว
ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์จะมาขอให้นับโทษต่อภายหลังพิพากษาคดีแล้วไม่ได้ ผิดบทบัญญัติมาตรา ๑๙๐ ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา จึงให้ยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในคดีนี้คำขอท้ายฟ้องของโจทก์ไม่ได้ขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีที่ระบุมาฟ้อง ศาลจะให้นับโทษต่อจากคดีเหล่านั้นไม่ได้ และโจทก์จะมาขอให้นับโทษต่อภายหลังศาลพิพากษาแล้วไม่ได้ เป็นการผิดมาตรา ๑๙๐ แห่งประมวลวิธีพิจารณาความอาญา จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง