แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์มอบสลากกินแบ่งรัฐบาลให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ช่วยตรวจรางวัลแล้วสลากกินแบ่งของโจทก์ซึ่งถูกรางวัลได้หายไป ปรากฏภายหลังว่าจำเลยที่ 3 นำสลากกินแบ่งดังกล่าวไปขายให้แก่จำเลยที่ 5ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ที่สี่แยกคอกวัวซึ่งเป็นที่ชุมนุมแห่งการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ปัจจุบันนี้เป็นทั้งที่ซื้อขายสลากกินแบ่งและรับซื้อสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลโดยทั่วไป และจำเลยที่ 5 ได้รับซื้อไว้โดยเปิดเผย ทั้งไม่ทราบว่าเป็นสลากกินแบ่งของโจทก์ที่หายไปและนำไปขึ้นเงินต่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วยตนเองแล้ว ถือได้ว่าจำเลยที่ 5 ซื้อสลากกินแบ่งโดยสุจริตในท้องตลาด จำเลยที่ 5 ไม่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์และไม่จำต้องคืนเงินที่รับมาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 16กันยายน 2523 จำนวน 2 ฉบับ ต่อมาโจทก์มอบสลากกินแบ่งให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ช่วยตรวจรางวัลแล้วสลากกินแบ่งของโจทก์หายไปทราบภายหลังว่าสลากกินแบ่งดังกล่าวถูกรางวัลที่ 3 ต่อมาจำเลยที 3นำสลากกินแบ่ง 1 ฉบับมาขายให้แก่จำเลยที่ 5 (คือจำเลยที่ 4ในคดีนี้) ซึ่งทำการซื้อขายสลากกินแบ่งอยู่ที่สี่แยกคอกวัวถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพมหานคร จำเลยที่ 5 รับซื้อไว้และได้นำสลากกินแบ่งไปขึ้นเงินต่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว การกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และที่ 5 เป็นการร่วมกันละเมิดต่อโจทก์ขอให้ศาลพิพากษาว่าสลากกินแบ่ง ฉบับดังกล่าวเป็นของโจทก์ ให้จำเลยร่วมกันใช้เงินจำนวน 50,000 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 5 ให้การปฏิเสธขอให้ยกฟ้องส่วนจำเลยที่ 3 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ให้จำเลยที่ 3 ชำระเงินจำนวน 50,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีให้โจทก์ ยกฟ้องจำเลยอื่น โจทก์อุทธรณ์ขอให้จำเลยที่ 5 ชำระเงิน 50,000 บาทตามฟ้องด้วย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยที่ 5 ร่วมกับจำเลยที่ 3 ชำระเงินจำนวน 50,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยที่ 5 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังได้เป็นยุติว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลหมวด ข. หมายเลข 1375088 ของโจทก์หายไป จำเลยที่ 3 นำสลากกินแบ่งฉบับดังกล่าวมาขายให้แก่จำเลยที่ 5ที่ร้านของจำเลยที่ 5 ซึ่งทำการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาล อยู่ที่สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพมหานคร จำเลยที่ 5รับซื้อไว้และได้นำสลากกินแบ่งดังกล่าวไปขึ้นเงินต่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว ปัญหามีว่าจำเลยที่ 5 ทำละเมิดต่อโจทก์และต้องคืนเงินที่รับมาแก่โจทก์หรือไม่ โจทก์มีตัวโจทก์เบิกความว่าเจ้าพนักงานตำรวจทำหนังสือให้โจทก์ไปที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่ออายัดสลากกินแบ่งของโจทก์ทั้งสองฉบับ แต่อายัดได้เพียงฉบับเดียวคือหมวด ก. ส่วนหมวด ข. อายัดไม่ทัน เจ้าหน้าที่บอกว่าจำเลยที่ 5 มารับเงินไปแล้ว จำเลยที่ 5 บอกว่ารับซื้อสลากกินแบ่งที่ร้านขายสลากกินแบ่งของจำเลยที่ 5 นั่นเอง โจทก์ทราบว่าที่ที่หน้าธนาคารออมสินสาขาราชดำเนินมีร้านขายสลากกินแบ่งตั้งเรียงกันอยู่หลายร้าน นางอุ่นเรือน เกตุแก้ว ภรรยาโจทก์เบิกความว่า สลากกินแบ่งของโจทก์ที่ไปขออายัดหมวด ก.ข.หมายเลข 1375088 อายัดได้ใบเดียวเป็นหมวด ก. ส่วนหมวด ข.อายัดไม่ได้เพราะจำเลยที่ 5 ไปรับเงินตั้งแต่ตอนเช้าก่อนโจทก์ไปถึง จำเลยที่ 3 นำสลากกินแบ่งดังกล่าวไปขายให้จำเลยที่ 4 ที่ 5สลากกินแบ่งที่หายไปถูกรางวัล สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลต้องจ่ายเงินให้ฉบับละ 50,000 บาท ร้อยตำรวจตรีเกียรติศักดิ์สุขทรัพย์ พยานโจทก์อีกปากหนึ่งเบิกความว่า โจทก์แจ้งความว่าโจทก์ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลถูกรางวัลที่ 3 ให้นางอุ่นเรือนไปตรวจสลากหายไป 1 คู่เป็นเงิน 100,000 บาท พยานทำการสอบสวนได้ความว่า จำเลยที่ 3 เอาไปขายให้ร้านกนกสิน สี่แยกสะพานควาย 1 ใบและขายให้จำเลยที่ 5 ที่สี่แยกคอกวัว 1 ใบ ที่สี่แยกคอกวัวเป็นศูนย์กลางรับซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุด และจำเลยที่ 3 ไม่มีอาชีพรับซื้อขายสลากกินแบ่งแต่อย่างใด จำเลยที่ 5อ้างตนเองนำสืบว่า จำเลยที่ 5 ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ที่สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง จำเลยที่ 5 รับซื้อสลากกินแบ่งที่พิพาทจากจำเลยที่ 3 ในวันอาทิตย์เวลาประมาณ 15 นาฬิกาโดยจำเลยที่ 5 เห็นว่าสลากไม่ปลอมไม่มีลายเซ็นชื่อ สลากออกมา19 วันแล้วและไม่มีการอายัด รุ่งเช้าจำเลยที่ 5 ก็เอาสลากกินแบ่งใบนั้นไปขึ้นเงินที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและรับเงินมาเรียบร้อย จำเลยที่ 5 ไม่เคยรู้จักจำเลยที่ 3 มาก่อน นายเฉลาเตาลานนท์ พยานจำเลยที่ 5 เบิกความว่าจำเลยที่ 5 ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ที่ศูนย์กลางจำหน่ายสลากกินแบ่งที่สี่แยกคอกวัวงวดหนึ่ง ๆ จำเลยที่ 5 รับซื้อสลากที่ถูกรางวัลราวสองล้านบาทนายธรรมนูญ ศรีวาลัย พนักงานของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลพยานจำเลยที่ 5 เบิกความว่าจำเลยที่ 5 เป็นผู้ค้าสลากกินแบ่งและรับซื้อรางวัลปรากฏตามหนังสือสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเอกสารหมาย ล.5/2 และจำเลยที่ 5 มีแผงขายสลากกินแบ่งอยู่ที่สี่แยกคอกวัวซึ่งเป็นย่านขายสลากกินแบ่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยที่ 3 นำสลากกินแบ่งรัฐบาลหมวด ข. หมายเลข 1375088ที่พิพาทมาขายให้จำเลยที่ 5 โดยไม่รู้จักกันมาก่อน จำเลยที่ 5 รับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่พิพาทไว้โดยเปิดเผยโดยสุจริตทั้งไม่ทราบว่าเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ที่หายไป และนำสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าวไปขึ้นเงินต่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วยตนเองตามปกติธุระของผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 5รับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่พิพาทไว้โดยสุจริตจำเลยที่ 5ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าวในที่ชุมนุมแห่งการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่สี่แยกคอกวัวซึ่งปัจจุบันนี้เป็นทั้งที่ซื้อขายสลากกินแบ่งและรับซื้อสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลโดยทั่วไปด้วยถือได้ว่าจำเลยที่ 5 ซื้อสลากกินแบ่งที่พิพาทจากท้องตลาด เมื่อพฤติการณ์เป็นดังนี้คดียังไม่พอฟังว่าจำเลยที่ 5 กระทำละเมิดต่อโจทก์และไม่จำต้องคืนเงินที่รับมาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1332 จำเลยที่ 5 ไม่ต้องร่วมกับจำเลยที่ 3 รับผิดต่อโจทก์ศาลฎีกาเห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์บางส่วนและไม่เห็นด้วยในปัญหานี้ ฎีกาจำเลยที่ 5 ฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 5ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 5 ทั้งสามศาลให้เป็นพับนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์