คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1751/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83 ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยฟันศีรษะผู้ตายหนึ่งที ผู้ตายวิ่งหนีไป แล้ว พ. กับพวกไล่ตามไปทำร้ายถึงแก่ความตาย จำเลยไม่มีเจตนาฆ่าบาดแผลของผู้ตายที่ศีรษะถึงอันตรายสาหัส พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 297, 83 โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยร่วมกับพวกฆ่าผู้ตาย ส่วนข้อที่ว่าจำเลยฟันศีรษะผู้ตาย พยานโจทก์ไม่มีน้ำหนัก พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ดังนี้ ข้อหาเรื่องฆ่าคนเป็นอันถูกศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงในข้อหานี้ไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 คงฎีกาได้เฉพาะข้อหาความผิดต่อร่างกาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกับพวก ตี ฟัน และแทงนายเข้ม เพชรินทร์โดยเจตนาฆ่านายเข้ม เพชรินทร์ ได้รับอันตรายสาหัส และถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยใช้ขวานฟันที่ศีรษะผู้ตายหนึ่งที ผู้ตายวิ่งหนีไป จำเลยไม่ได้ไล่ตามไป แล้วผู้ตายถูกนายเทพกับพวกตามไปทำร้ายถึงแก่ความตาย จำเลยไม่มีเจตนาฆ่าบาดแผลผู้ตายที่ศีรษะลึกจดกะโหลกศีรษะถึงอันตรายสาหัส พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗, ๘๓
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยร่วมกับนายเทพและพวกฆ่าผู้ตายส่วนข้อที่ว่าจำเลยใช้ขวานฟันศีรษะผู้ตายพยานโจทก์ก็ไม่มีน้ำหนัก พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานฆ่าคน หรือมิฉะนั้นลงโทษในความผิดฐานใช้ขวานฟันศีรษะผู้ตาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานฆ่าคนนั้น ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยข้อเท็จจริงต้องกันมาว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิดฐานฆ่าคนดังข้อหาของโจทก์ ข้อหาเรื่องฆ่าคนเป็นอันถูกยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๙ ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย ส่วนเรื่องความผิดต่อร่างกายซึ่งศาลล่างพิพากษากลับกันมานั้น ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยใช้ขวานฟันศีรษะผู้ตายจริง แต่ปรากฏว่าบาดแผลที่ศีรษะผู้ตายมีรอยถูกฟันถึง ๕ แห่ง แผลฉกรรจ์อยู่ที่ท้ายทอยแห่งเดียว ซึ่งทำให้ถึงตาย แผลแห่งนี้ไม่ใช่เกิดจากการกระทำของจำเลยแน่ถ้าเป็นเช่นนั้น ผู้ตายคงวิ่งหนีไปไม่ถึงวัด แผลอื่นล้วนเป็นแผลเล็กไม่เข้าลักษณะถึงอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗
พิพากษาแก้ ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕

Share