คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์มอบอำนาจให้บุคคลอื่นฟ้องคดีแทนตามหนังสือมอบอำนาจซึ่งไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ แม้โจทก์จะได้เสียค่าอากรแสตมป์สำหรับหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวครบถ้วนในระหว่างอุทธรณ์ก็ตาม แต่ในขณะฟ้องหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวก็ยังรับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 เท่ากับผู้ฟ้องคดีมิได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ ผู้ฟ้องคดีจึงไม่มีอำนาจฟ้อง การไม่ปิดอากรแสตมป์นี้แม้จำเลยจะไม่ตั้งประเด็นขึ้นมาแต่แรกจำเลยก็ยกขึ้นอุทธรณ์ได้เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้มอบอำนาจให้นางสาวมาลีวรรณ เยาวสำลีเป็นผู้รับมอบอำนาจในการฟ้องคดีขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน53,125 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ของต้นเงิน50,000 บาท นับตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์จำเลยให้การว่า โจทก์จะมอบอำนาจให้นางสาวมาลีวรรณ เยาวสำลีฟ้องและดำเนินคดีแทนโจทก์หรือไม่ หนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีจะถูกต้องสมบูรณ์และเป็นลายมือชื่อของผู้มอบอำนาจหรือไม่ จำเลยไม่รับรอง ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 50,000บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 28 มกราคม2527 เป็นต้นมาจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า หนังสือมอบอำนาจให้นางสาวมาลีวรรณ เยาวสำลี ฟ้องคดีไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ ต้องห้ามมิให้รับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาในชั้นนี้ตามฎีกาของโจทก์ว่าหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ และศาลอุทธรณ์ไม่อาจยกปัญหาใบมอบอำนาจให้ฟ้องคดีซึ่งไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ขึ้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงได้ความว่า โจทก์เป็นบริษัทจำกัด ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้นางสาวมาลีวรรณ เยาวสำลี เป็นผู้ฟ้องคดีนี้ตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.2 หนังสือมอบอำนาจดังกล่าวไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้โจทก์ชนะคดีโดยมิได้วินิจฉัยเรื่องนี้ จำเลยอุทธรณ์ในปัญหาข้อนี้ โจทก์จึงได้ไปเสียอากรแสตมป์พร้อมเงินเพิ่มสำหรับใบมอบอำนาจดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่อากรแสตมป์ตามใบสลักหลังตราสารและส่งต่อศาลพร้อมคำแก้อุทธรณ์ศาลฎีกาเห็นว่า แม้โจทก์จะได้เสียค่าอากรแสตมป์สำหรับหนังสือมอบอำนาจครบถ้วนในระหว่างอุทธรณ์ก็ตาม แต่ในขณะฟ้องคดีนี้หนังสือมอบอำนาจดังกล่าวก็ยังรับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 ซึ่งเท่ากับว่า นางสาวมาลีวรรณเยาวสำลี ฟ้องคดีนี้โดยมิได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ นางสาวมาลีวรรณจึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ และการไม่ปิดอากรแสตมป์นี้แม้จำเลยจะไม่ตั้งเป็นประเด็นขึ้นมาแต่แรก จำเลยยกขึ้นอุทธรณ์ได้ เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้นชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ทุกข้อฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share