คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2527

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยไปขอเงินผู้ตายซึ่งเคยเป็นภรรยามีบุตรด้วยกัน แต่เลิกกันแล้ว ผู้ตายให้ไปเอาที่บ้าน จำเลยขู่จะฆ่ามารดาผู้ตายห้ามก็ไม่ฟัง จำเลยตีและเตะจนผู้ตายล้มลงไปในนามีน้ำขัง จำเลยตามไปกดคอจนตายเพราะขาดอากาศหายใจ ดังนี้ เป็นการข่มเหงรังแกเอาแก่สตรีโดยปราศจากเมตตาปรานีและโดยไม่มีเหตุอันน่าเห็นใจแต่อย่างใดกระทำต่อหน้าพยาน ทั้งถูกจับกุมได้ในทันทีหลังเกิดเหตุแม้รับสารภาพ ก็เป็นการจำนนต่อพยานหลักฐาน จึงไม่มีเหตุที่จะลดโทษให้จำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2525 เวลาประมาณ 18 นาฬิกา จำเลยใช้มือทั้งสองบีบคอและกดศรีษะนางกัลยา อู่คงคา ให้จมน้ำโดยเจตนาฆ่าให้ตาย เป็นเหตุให้นางกัลยา อู่คงคา ถึงแก่ความตายเพราะขาดอากาศหายใจสมดังเจตนาของจำเลย เหตุเกิดที่ตำบลเกยไชย อำเภอชุมแสงจังหวัดนครสวรรค์ ก่อนคดีนี้จำเลยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก 9 เดือน ฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 167/2524 ของศาลจังหวัดนครสวรรค์ จำเลยได้รับโทษและพ้นโทษดังกล่าวแล้วบังอาจมากระทำความผิดในคดีนี้อีก ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 92

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ที่จำเลยรับสารภาพตลอดมาตั้งแต่ชั้นจับกุมนั้นไม่มีเหตุบรรเทาโทษเพราะผู้ใหญ่บ้านจับกุมจำเลยได้ทันใดหลังเกิดเหตุในบริเวณที่เกิดเหตุ เป็นการจำนนต่อหลักฐาน ให้ประหารชีวิตจำเลยไม่จำต้องเพิ่มโทษจำเลยตามขออีก

จำเลยอุทธรณ์ขอลดโทษ

ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วพิพากษายืน

จำเลยฎีกาขอลดโทษ

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่านางกัลยา อู่คงคา ผู้ตายเคยเป็นภรรยาของจำเลยเกิดบุตรด้วยกัน 1 คนเป็นหญิงชื่อเด็กหญิงนก อู่คงคา ขณะเกิดเหตุอายุ 7 ปี ผู้ตายกับจำเลยเลิกกันก่อนเกิดเหตุปีเศษ ผู้ตายมีสามีใหม่แล้ว จำเลยยังกลับไปขอเงินแกมบังคับจากผู้ตายบ่อย ๆ วันเกิดเหตุผู้ตายไปเกี่ยวข้าวในนา จำเลยไปรับเด็กหญิงนกที่บ้านมารดาผู้ตายแล้วพาไปหาผู้ตายที่นา จำเลยขอเงินผู้ตาย ผู้ตายว่าให้ไปเอาที่บ้าน จำเลยขู่ว่าถ้าไม่ให้จะเอาเคียวกระชากคอ นางบุญชู อู่คงคา มารดาผู้เสียหายห้ามจำเลยก็ไม่ฟัง นางบุญชูจึงวิ่งกลับบ้านเพื่อหาคนช่วย ระหว่างนั้นจำเลยตีและเตะผู้ตายจนล้มลงไปในนาซึ่งมีน้ำขังอยู่ลึกประมาณ 1 ฟุต จำเลยตามลงไปกดคอผู้ตายจนถึงแก่ความตายเพราะขาดอากาศหายใจ เมื่อกระทำความผิดแล้วจำเลยวิ่งหนีแต่ถูกนายเจริญ พระโพธิ์ผู้ใหญ่บ้านไล่ตามจับตัวได้ จำเลยให้การรับสารภาพตลอดมาตั้งแต่ถูกจับกุมชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาของศาล

ข้อที่ต้องวินิจฉัยคือ มีเหตุที่จะลดโทษให้แก่จำเลยหรือไม่ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยเป็นการข่มเหงรังเกเอาแก่สตรีผู้อ่อนแอกว่าโดยปราศจากความเมตตาปราณีและโดยไม่มีเหตุอันน่าเห็นใจแต่อย่างใดเลย จำเลยกระทำความผิดต่อหน้าพยานทั้งถูกจับกุมได้ในทันทีหลังเกิดเหตุ เช่นนี้ เห็นได้ว่าจำเลยจำนนต่อพยานหลักฐานดังที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัย ไม่มีเหตุจะลดโทษให้แก่จำเลยได้ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share