คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1747/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทรัพย์ซึ่งคู่ความในฐานะทายาทพิพาทกันอ้างว่าเป็นมรดกของผู้ตาย และคู่ความตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันให้ขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งกันในระหว่างคู่ความ ซึ่งศาลได้พิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุดแล้ว ในชั้นบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์เพื่อปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ บุคคลภายนอกจะร้องขอเข้ามาในคดีอ้างว่ามีส่วนเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ขายทอดตลาดอยู่ครึ่งหนึ่ง และขอรับเงินส่วนแบ่งจากการขายทอดตลาดโดยคู่ความเดิม ไม่ ยินยอม หาได้ไม่ เพราะเป็นกรณีที่บุคคลภายนอกนั้นตั้งประเด็นขึ้นใหม่พิพาทกับคู่ความเดิมเกี่ยวกับทรัพย์ซึ่งศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
หากบุคคลภายนอกมีสิทธิในทรัพย์ที่ขายทอดตลาดอย่างไรหรือถูกโต้แย้งสิทธิตามกฎหมายประการใด ก็ชอบที่จะฟ้องร้องเป็นคดีใหม่

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องทรัพย์มรดกของนางปุกมารดาผู้ร้องสอดซึ่งเป็นน้องของโจทก์จำเลยได้ขอเข้าเป็นจำเลยร่วมในที่สุดได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ให้เอาทรัพย์มรดกซึ่งมีอยู่ 2 รายการออกขายทอดตลาด ได้เงินเท่าใดหักไว้เป็นค่าทำศพมารดาก่อน ที่เหลือให้แบ่งกันคนละส่วน ศาลพิพากษาตามยอมนั้นแล้วและได้จัดการขายทอดตลาดทรัพย์มรดก 2 รายการ รายการหนึ่งหรือที่ดินตราจองเลขที่ 130 มีชื่อนางปุกเป็นเจ้าของ ขายได้เงิน 65,000 บาท

ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องว่า ที่ดินตราจองดังกล่าวเป็นของบิดามารดาผู้ร้อง ต่อมาเป็นมรดกตกทอดแก่นางปุกและผู้ร้องคนละครึ่ง นางปุกตายส่วนของนางปุกตกได้แก่โจทก์จำเลยและผู้ร้องสอด ผู้ร้องได้ร่วมครอบครองมา ผู้ร้องมีสิทธิในเงินที่ขายทอดตลาดหลังจากหักค่าธรรมเนียมแล้วครึ่งหนึ่ง ขอให้จ่ายเงินแก่ผู้ร้อง

โจทก์จำเลยและผู้ร้องสอดคัดค้านว่า ที่ดินเป็นของนางปุกคนเดียวผู้ร้องไม่มีสิทธิ

ศาลชั้นต้นงดไต่สวนคำร้อง และมีคำสั่งว่า ผู้ร้องไม่มีสิทธิจะขอให้ศาลกันส่วนของผู้ร้องไว้ เมื่อผู้ร้องอ้างว่ามีสิทธิในทรัพย์มรดกที่ศาลขายทอดตลาดประการใดก็ชอบที่จะไปดำเนินคดีใหม่ ให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ประเด็นที่พิพาทกันในระหว่างคู่ความเดิมศาลชั้นต้นได้พิพากษาไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความ คดีถึงที่สุดจนกระทั่งเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดที่ดินมรดกขายทอดตลาดเพื่อเอาเงินมาแบ่งกันตามสัญญาแล้ว ผู้ร้องเพิ่งมาร้องว่ามีส่วนเป็นเจ้าของที่ดินที่ศาลขายทอดตลาดครึ่งหนึ่ง และขอให้ศาลไต่สวนนั้น ไม่อาจทำได้ เพราะเป็นกรณีที่ผู้ร้องตั้งประเด็นขึ้นใหม่พิพาทกับโจทก์จำเลยและผู้ร้องสอด และศาลจะแก้ไขคำพิพากษาคดีนี้ซึ่งถึงที่สุดแล้วหาได้ไม่เมื่อผู้ร้องอ้างว่ามีสิทธิในที่ดินที่ศาลได้ขายทอดตลาดไปอย่างไร หรือผู้ร้องถูกโต้แย้งสิทธิตามกฎหมายประการใด ก็ชอบที่จะฟ้องร้องโจทก์จำเลยและผู้ร้องสอดเป็นคดีใหม่หาไม่คำพิพากษาของศาลแต่ละคดีจะไม่มีเวลายุติลงได้ ที่ศาลล่างงดไต่สวนและสั่งยกคำร้องชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share