คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เหตุที่กฎหมายบัญญัติให้ฝ่ายที่นำสืบภายหลังถามค้านพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนเพื่อที่ตนจะนำพยานสืบหักล้างหรือเพื่อพิสูจน์ไว้เสียก่อนนั้นก็เพื่อให้พยานของฝ่ายที่ต้องนำสืบก่อนมีโอกาสอธิบายถึงข้อความเหล่านั้น แต่ถ้าพยานของแต่ละฝ่ายต่างอ้างว่าอยู่คนละแห่ง คนละฐานที่รู้เห็นเหตุการณ์คนละอย่าง ต่างประเด็นกัน เช่นนี้ฝ่ายที่นำสืบภายหลังก็ไม่ต้องถามค้านพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนดังกล่าวข้างต้น
การขอเลื่อนคดี แม้อีกฝ่ายไม่คัดค้านแต่เมื่อศาลเห็นว่าไม่มีเหตุจำเป็นพอที่จะเลื่อนคดี จะไม่อนุญาตให้เลื่อนก็ได้
ทนายโจทก์ลงชื่อรับรองในคำร้องที่ขอเลื่อนว่า ‘รอฟังคำสั่งอยู่ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว’ เช่นนี้ ถือได้ว่าทนายโจทก์ได้ทราบคำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีในวันที่ศาลสั่งนั้น

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องจากโจทก์ขอยึดทรัพย์จำเลยที่ 1 ไว้ก่อนคำพิพากษาและได้นำยึดเรือนห้องแถวและโรงรถ รวม 7 หลัง โดยอ้างว่าเป็นทรัพย์ของจำเลยที่ 1 ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องว่าโรงเรือนเหล่านี้ราคา 48,500 บาท ปลูกอยู่ในที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องขอให้ถอนการยึด

โจทก์ให้การว่า ผู้ร้องกับจำเลยที่ 1 สมคบกันโดยจำเลยที่ 1 โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวให้ผู้ร้องโดยรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบโดยไม่สุจริต

ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลล่างทั้งสอง ให้ถอนการยึดทรัพย์พิพาท โดยฟังว่าจำเลยที่ 1 กับผู้ร้องได้มีการซื้อขายที่ดินพร้อมกับสิ่งปลูกสร้างกันโดยสุจริต

ข้อที่โจทก์ฎีกาว่า ฝ่ายผู้ร้องไม่ได้ถามค้านพยานโจทก์ไว้ก่อนผู้ร้องนำพยานเข้าสืบ รับฟังไม่ได้เพราะไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า รูปเรื่องไม่เข้าตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้างเพราะการนำสืบของโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนกับของผู้ร้องต่างประเด็นกัน โจทก์นำสืบว่าได้พบผู้ร้องและพูดจากกันที่ทางเท้าข้างที่ทำการเทศบาล แต่ผู้ร้องนำสืบว่า ผู้ร้องตรวจนับสินค้าอยู่กับพยานของผู้ร้องในร้านสหกรณ์ซึ่งต่างสถานที่กัน เหตุที่กฎหมายบทนี้บัญญัติให้คู่ความฝ่ายที่นำพยานมาสืบภายหลังถามค้านพยานที่ตนจะนำมาสืบหักล้างหรือเพื่อพิสูจน์ไว้เสียก่อนก็เพื่อให้พยานฝ่ายที่ต้องนำสืบก่อนมีโอกาศอธิบายถึงข้อความเหล่านั้นแต่กรณีนี้ พยานแต่ละฝ่ายต่างอ้างว่าอยู่คนละแห่งคนละฐานที่รู้เห็นเหตุการณ์คนละอย่าง จึงไม่ใช่ความประสงค์ดังที่บัญญัติไว้

ส่วนที่โจทก์ฎีกาโต้แย้งมาว่า การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีตามคำร้องของโจทก์ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายผู้ร้องไม่คัดค้านในการที่โจทก์ขอเลื่อนคดี เป็นการไม่ชอบนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าการขอเลื่อนคดีนี้ แม้อีกฝ่ายหนึ่งจะไม่คัดค้าน เมื่อศาลเห็นว่าไม่มีเหตุจำเป็นพอที่จะเลื่อนคดี จะไม่อนุญาตให้เลื่อนก็ได้และทนายโจทก์ได้ลงชื่อรับรองไว้ในคำร้องที่ขอเลื่อนว่ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว ย่อมถือได้ว่า ทนายโจทก์ได้ทราบคำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีในวันที่สั่งนั้น

Share