คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1725/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงผู้เสียหายในระยะห่างกัน 10 วา ถูกบริเวณเอวด้านหลังเป็นบาดแผลสาหัสขณะผู้เสียหายลงจากเรือนวิ่งหนี เนื่องจากจำเลยสงสัยว่าผู้เสียหายเป็นชู้กับภรรยานั้น หากเป็นเพราะผู้เสียหายวิ่งหนีพ้นระยะวิถีกระสุนที่สามารถจะทำอันตรายให้ถึงตายได้ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตาย มิใช่เพราะกระสุนปืนมีแรงระเบิดน้อย ย่อมถือได้ว่าจำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่า ฉะนั้น เมื่อจำเลยกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ปืนลูกซองยิงผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่าให้ตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80

จำเลยให้การว่า ใช้ปืนลูกซองซึ่งบรรจุกระสุนปืนทำเองลูกปรายใช้ยิงไก่ป่าหรือกระจง ใช้ยิงคนไม่ตาย เพราะดินระเบิดมีแรงส่งน้อยยิงใครไม่รู้เห็นตะคุ่ม ๆ ที่เข้ามาลักไก่ของจำเลย จำเลยไม่มีเจตนาฆ่า ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 จำคุกจำเลย 3 ปี คำให้การของจำเลยมีประโยชน์ต่อทางพิจารณาลดโทษตามมาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลย 2 ปี ริบปืนและปลอกกระสุนปืน

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 จำคุกจำเลย 10 ปี คำเบิกความของจำเลยมีประโยชน์ต่อทางพิจารณาลดโทษให้ 1 ใน 3 ตาม มาตรา 78 คงจำคุกจำเลย 6 ปี 8 เดือน นอกจากที่แก้ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกาว่า จำเลยไม่มีเจตนา เพราะยิงผู้เสียหายในระยะห่างและกระสุนที่ใช้ยิงมีแรงระเบิดน้อย

ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยใช้อาวุธปืนลูกซองยาว ซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรง สามารถใช้ประหัตประหารให้ถึงตายได้ ยิงผู้เสียหายในระยะห่างกัน 10 วา ถูกบริเวณเอวด้านหลังเป็นบาดแผลสาหัส แพทย์เอากระสุนออกไม่ได้ ขณะผู้เสียหายลงจากเรือนวิ่งหนี เนื่องจากจำเลยสงสัยว่าผู้เสียหายเป็นชู้กับภรรยาจำเลยนั้น หากเป็นเพราะผู้เสียหายวิ่งหนีพ้นระยะวิถีกระสุนที่สามารถจะทำอันตรายให้ถึงตายได้ มิใช่เพราะกระสุนปืนมีแรงระเบิดน้อย จึงถือได้ว่าจำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่า เมื่อจำเลยกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผลจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย

พิพากษายืน

Share