คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1725/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การทำลายสักขีพยานเพื่อช่วยตัวเอง ไม่ได้ช่วยผู้อื่น ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 154

ย่อยาว

ความว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพากันไปตรวจค้นบ้านนายวุ่นจำเลย ฐานมีและจำหน่ายธนบัตรปลอมขณะอ่านหมายค้น นางลิ้มจำเลยเป็นภรรยานายวุ่นจำเลยเอาธนบัตรปลอมเผาไฟในเตาในครัวพลตำรวจดีแย่งไว้ได้ชิ้นหนึ่งที่นำมาเป็นของกลาง ขณะตำรวจจะเข้าไปเอาธนบัตรในเตา นางลิ้ม นางอิดช่วยกันกอดและกันตัวตำรวจไว้เพื่อไม่ให้เข้าไปเอาธนบัตรในเตาได้ โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1-2 ฐานสมคบกันมีธนบัตรปลอมไว้เพื่อจำหน่าย จำเลยที่ 2, 3 สมคบกันขัดขวางและทำลายสักขีพยาน จำเลยทั้ง 3 ปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1-2 มีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 203 และพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะอาญา พ.ศ. 2475 มาตรา 6 และจำเลยที่ 2 มีผิดตามมาตรา 154 อีกกระทงหนึ่ง แต่ให้ลงโทษกระทงที่หนักกระทงเดียว ให้จำคุกคนละ 10 ปี จำเลยที่ 3 มีผิดฐานสมรู้ทำลายสักขีพยานให้จำคุก 3 เดือน ลดแล้วคงจำคุก 2 เดือน

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา แต่จำเลยที่ 3 ยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงให้จำหน่ายคดีเฉพาะตัวจำเลยที่ 3

ศาลฎีกาเห็นว่า ความผิดฐานทำลายสักขีพยานก็ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามมาตรา 154 ไม่ได้ เพราะการกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการช่วยตัวเอง ไม่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น ส่วนความผิดฐานมีและจำหน่ายธนบัตรปลอม ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 มีผิดดังฟ้อง

พิพากษายืน

Share