คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1722/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทำการแปรรูปไม้ที่ในสวนกล้วย โดยตั้งเป็นโรง 2 ห้อง ทำค้างเลื่อยให้คนเลื่อยไม่ได้ 4 คู่ ทำการเลื่อยไม้แล้วเป็นอันมาก ที่ส่งออกไปที่อื่นเจ้าพนักงานจับได้เป็นไม้กระดาน 103 แผ่น ยังมีปึกไม้อยู่ตามบริเวณโรงงานอีกกว่า 200 แผ่น ไม้เหลี่ยม 6 เหลี่ยม ไม้สักกว่า 20 ท่อน ดังนี้ ต้องถือว่าที่ทำการเลื่อยไม้ของจำเลยเป็น ” โรงงานแปรรูปไม้ ” ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 4 (13) แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยตั้งโรงงานแปรรูปไม้ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๔๘,๗๓
จำเลยให้การว่า ทำการเลื่อยไม้บนค้างเลื่อยชั่วคราว มิได้ตั้งเป็นโรงงาน
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยตั้งโรงงานแปรรูปไม้ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ๒๔๘๔ มาตรา ๔๘,๗๓ ปรับ ๘๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลล่างฟังว่าจำเลยทำการแปรรูปไม้ในสวนกล้วยของจำเลยโดยตั้งเป็นโรง ๒ ห้อง ทำค้างเลื่อยให้คนเลื่อยไม้ได้ ๔ คู่ให้ทำการเลื่อยไม้แล้วเป็นอันมาก ที่ส่งออกไปที่อื่นเจ้าพนักงานจับได้เป็นไม้กระดาน ๑๐๓ แผ่น ยังมีปีกไม้อยู่ตามบริเวณโรงงานอีกกว่า ๒๐๐ แผ่น ไม้เหลี่ยม ๖ เหลี่ยม ไม้สักกว่า ๒๐ ท่อน ดังนี้ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลล่างทั้งสองว่า ที่ทำการเลื่อยไม้ของจำเลยเป็น ” โรงงานแปรรูปไม้ ” ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ ๒๔๘๔ มาตรา ๔ (๑๓) แล้ว
จึงพิพากษายืน

Share