แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ สำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม (ไว้) โดยเจตนาเพื่อการค้าหรือเพื่อการจำหน่าย ไม่อยู่ในข่ายที่จะได้รับยกเว้นโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6 ) พ.ศ. 2518
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๗ เวลากลางคืน (ก่อนเที่ยง) ถึงวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๑๗ เวลากลางคืน (หลังเที่ยง) จำเลยกับพวกบังอาจร่วมกันนำเข้า มีและค้าอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามคือกระสุนปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังแบบ ๙๓ ม.ม. ขนาด ๕๗ ม.ม. จำนวน ๑๓๖ นัด จรวดยิงต่อสู้รถถังแบบเอ็ม ๗๒ ขนาด ๖๖ ม.ม. และเครื่องยิงจรวดดังกล่าวประกอบไว้เป็นชุดจำนวน ๑๕ เครื่อง กระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม ๗๙ ขนาด ๔๐ ม.ม. จำนวน ๘๐๘ นัด ลูกระเบิดขว้าวชนิดสังหารแบบ ๘๘ บ. ๖๗ จำนวน ๓๕๑ ลูก จรวดยิงต่อสู้รถถังแบบเอ็ม ๒๘ เอ ๒ ขนาด ๓.๕ นิ้ว จำนวน ๑๐๐ นัด กระสุนเล็กแบบ ๐๘ ขนาด ๕.๕๖ ม.ม. จำนวน ๑,๔๐๐ นัด และกระสุนปืนกลแบบ ๙๓ ขนาด .๕๐ นิ้ว จำนวน ๑,๑๕๐ นัดโดยจำเลยกับพวกร่วมกันนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนดังกล่าวจากประเทศลาวเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อเอาไปขายแก่ผู้มีชื่อที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตากเหตุเกิดที่ตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ตำบลแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และตำบลลานหอย อำเภอด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย เกี่ยวพันกันขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๕๕, ๗๘ พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๑ มาตรา ๕, ๘ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๘๓ ริบของกลาง
จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๑ ฐานเป็นผู้ช่วยเหลือในการกระทำความผิดมีกำหนด ๑๒ ปี ลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๔ มีกำหนดคนละ ๒๐ ปี ลดโทษให้คนละหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๘ ปี จำคุกจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๔ มีกำหนดคนละ ๑๓ ปี ๔ เดือน สำหรับจำเลยที่ ๕ ที่ ๖ ให้ยกฟ้อง ยกคำขอที่ให้ริบของกลางเพราะศาลสั่งริบไปแล้วในคดีอาญาแดงที่ ๕๗๕/๒๕๑๗ ของศาลจังหวัดสุโขทัย
จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๔ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๔ ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายว่า ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๑๘ บัญญัติยกเว้นโทษแก่ผู้ที่มีอาวุธปืน กระสุนปืนทุกชนิดอันเป็นผลให้จำเลยไม่ต้องรับโทษ แต่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้นำพระราชบัญญัติอาวุธปืนดังกล่าวมาพิจารณาให้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๔ มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามแต่ละชนิดเป็นจำนวนมากโดยมีเจตนาเพื่อการค้าหรือเพื่อจำหน่ายไม่อยู่ในข่ายหรือความมุ่งหมายของพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๑๘ ที่บัญญัติจะไม่เอาโทษแก่ผู้กระทำผิดสำหรับกรณีนี้
ส่วนข้อเท็จจริงฟังว่าจำเลยที่ ๑ เป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามไว้เพื่อขายจริงตามฟ้อง
พิพากษายืน