แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เหตุเลิกจ้างที่ นายจ้าง อ้างว่าลูกจ้างลากิจ ลาป่วยเป็นจำนวนมากมิใช่เหตุจำเป็นนอกเหนือจากข้อยกเว้น 5 ประการ ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 123ลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานขาดสมรรถภาพในการทำงานเพราะลากิจ ลาป่วยหรือขาดงานบ่อย ๆ นายจ้างจะต้องหาวิธีการปรับปรุงแก้ไขด้วยหลักการบริหารงานบุคคลหรือตักเตือนให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน หาก่อให้เกิดสิทธิแก่นายจ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างนอกเหนือจากที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518มาตรา 123(1) ถึง (5) ไม่.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 8 เป็นคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ จำเลยที่ 9 เป็นลูกจ้างประจำของโจทก์ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2532 โจทก์ได้เลิกจ้างจำเลยที่ 9ฐานหย่อนสมรรถภาพและขาดความรับผิดชอบในการทำงาน เพราะลาป่วยและหยุดงานบ่อย โจทก์เคยเรียกจำเลยที่ 9 มาตักเตือนด้วยวาจาหลายครั้ง และได้ออกคำเตือนเป็นหนังสือลงวันที่ 27 เมษายน 2532จำเลยที่ 9 เพิกเฉย การกระทำของจำเลยที่ 9 ส่อเจตนาในการขาดความรับผิดชอบและจงใจจะทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยที่ 9 ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ว่าการเลิกจ้างเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม จำเลยที่ 1 ถึงที่ 8 มีคำสั่งที่ 35/2532ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2532 ว่าการเลิกจ้างดังกล่าวเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม ให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 38,500 บาทแก่จำเลยที่ 9 คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบและไม่ระบุว่าจำเลยที่ 9เสียหายอย่างไร ขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว
ศาลแรงงานมีคำสั่งไม่รับฟ้องจำเลยที่ 9
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 8 ให้การว่า โจทก์ได้เลิกจ้างจำเลยที่ 9ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องในระหว่างข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลใช้บังคับ อ้างว่าจำเลยที่ 9 ลากิจลาป่วยมาก การเลิกจ้างเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 123คำสั่งดังกล่าวจึงชอบแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
วันนัดพิจารณา โจทก์แถลงรับข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 9เป็นกรรมการสหภาพแรงงานไทยซัมมิทโอโตพาร์ท โจทก์เลิกจ้างจำเลยที่ 9 ขณะมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างระหว่างโจทก์กับสหภาพแรงงานไทยซัมมิทโอโตพาร์ทใช้บังคับ จำเลยที่ 9 ลากิจลาป่วยเป็นจำนวนมากตามที่ระบุในคำสั่งเลิกจ้าง แต่การลาจำเลยที่ 9ยื่นใบลาถูกต้องตามระเบียบและโจทก์อนุมัติใบลาทุกครั้ง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า โจทก์เลิกจ้างจำเลยที่ 9 ในขณะข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างใช้บังคับอ้างเหตุว่าลากิจและลาป่วยมาก แต่การลาดังกล่าวได้รับอนุญาตจากโจทก์ทุกครั้ง โจทก์จึงเลิกจ้างโดยจำเลยที่ 9 ไม่ได้กระทำผิด จึงเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 123ค่าเสียหายที่กำหนดให้โจทก์จ่ายแก่จำเลยที่ 9 เหมาะสมแล้วไม่มีเหตุจะเพิกถอนคำสั่งที่ 35/2532 พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า เหตุเลิกจ้างที่โจทก์อ้างมิใช่เหตุจำเป็นนอกเหนือจากข้อยกเว้น 5 ประการตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 123 การที่จำเลยที่ 9 ขาดสมรรถภาพในการทำงานเพราะลากิจลาป่วยหรือขาดงานบ่อยนั้น โจทก์ผู้เป็นนายจ้างจะต้องหาวิธีการปรับปรุงแก้ไขด้วยหลักการบริหารงานบุคคลหรือดำเนินการตักเตือนให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน หาก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ที่จะเลิกจ้างลูกจ้างนอกเหนือจากที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ. 2518 มาตรา 123(1) ถึง (5) ไม่
พิพากษายืน.