แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้มีดแทง ส. ภรรยาจำเลยขณะที่ ส. อุ้ม อ.บุตรอยู่ มีดที่จำเลยแทง ส. จึงถูก อ. ด้วย แต่จำเลยมิได้มีเจตนาฆ่า อ.แม้ อ. จะถูกมีดหลายครั้งมีบาดแผลหลายแห่งก็เป็นการแทงเพื่อเจตนาฆ่า ส. เท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงนางสังข์โดยเจตนาฆ่า เป็นเหตุให้นางสังข์ถึงแก่ความตาย ในเวลาเดียวกันจำเลยได้ใช้มีดดังกล่าวแทงเด็กชายเอนกหลายทีโดยเจตนาฆ่าเป็นเหตุให้เด็กชายเอนกถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑, ๒๘๘ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๒ ริบมีดของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ แต่ขอสืบพยานถึงสาเหตุที่ได้กระทำความผิด ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียว พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ลงโทษจำคุกและริบของกลาง
โจทก์อุทธรณ์ ขอให้ลงโทษจำเลยเป็น ๒ กรรมตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ที่โจทก์ฎีกาว่านอกจากจำเลยเจตนาฆ่านางสังข์ภรรยาแล้ว จำเลยยังมีเจตนาฆ่าเด็กชายเอนกบุตรจำเลยด้วย ถือได้ว่าเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมนั้น เห็นว่าสาเหตุที่จำเลยใช้มีดแทงนางสังข์ภรรยาเนื่องจากเข้าใจว่านางสังข์มีชู้และโกรธนางสังข์มาก ส่วนเด็กชายเอนกหาได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนี้ด้วยไม่ และโจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นขณะจำเลยใช้มีดแทงนางสังข์และแทงเด็กชายเอนก จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเด็กชายเอนกด้วย เมื่อพิเคราะห์คำของจำเลยที่ว่าจำเลยใช้มีดแทงนางสังข์ขณะนางสังข์อุ้มเด็กชายเอนก มีดที่จำเลยแทงนางสังข์ได้ถูกเด็กชายเอนกด้วย ประกอบกับลักษณะบาดแผลของนางสังข์กับเด็กชายเอนกในรายงานการชันสูตรพลิกศพด้วยแล้วแสดงว่าขณะที่จำเลยแทงนางสังข์นั้น นางสังข์อุ้มเด็กชายเอนกทางข้างขวาและนางสังข์คงจะหลบมีดที่จำเลยแทงนางสังข์ด้วย จึงได้ลักษณะบาดแผลที่ปรากฏในตัวของผู้ตายทั้งสองคนเช่นนั้น คำของจำเลยจึงประกอบด้วยเหตุผลเชื่อได้ว่าเป็นความจริง การที่จำเลยใช้มีดแทงนางสังข์และมีดไปถูกเด็กชายเอนกด้วย แม้เด็กชายเอนกจะถูกมีดหลายครั้งมีบาดแผลหลายแห่งก็เป็นการแทงเพื่อเจตนาฆ่านางสังข์เท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำผิดกรรมเดียว
พิพากษายืน