แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยอ้างต้นฉะบับรายงานเบ็ดเสร็จประจำวันของสถานีตำรวจเป็นพยวานต่อศาล แต่ผู้บังคับกองตำรวจคัดสำเนาส่งมาให้โดยรับรองว่าเป็นสำเนาอันแท้จริง ดังนี้ถ้าโจทก์ มิได้คัดค้านว่าเจ้าหน้าที่คัดสำเนาผิดจากต้นฉะบับแล้ว ศาลก็ชอบที่จะฟังสำเนาเอกสารนั้น เป็นพยานหลักฐานได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 238 หาจำต้องอ้างพยานบุคคลมาสืบประกอบเอกสารที่อ้างนั้นไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์ จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยทำผิดดั่งข้อหาพิพากษาจำคุกจำเลย ๔ ปีตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๙๙
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยถูกจับอยู่ที่สถานีตำรวจ ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุเรื่องนี้ตลอดมาจนถึงเวลาเกิดเหตุเรื่องนี้ ทั้งนี้นอกจากคำพยานบุคคลแล้ว ยังมีบันทึกของเจ้าหน้าที่ในรายงานเบ็ตเสร็จประจำวันประกอบ สำเนารายงานเบ็ดเสร็จประจำวันนี้ มีเจ้าหน้าที่รับรองถูกต้อง ย่อมฟังเป็นพยานหลักฐานได้ ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๒๓๘ หาจำต้องอ้างพยานบุคคลมาสืบประกอบไม่โจทก์มิได้คัดค้านว่า เจ้าหน้าที่คัดสำเนามาผิดกับต้นฉะบับ จึงชอบที่จะวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลย
จึงพิพากษายืน