คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1717/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างใช้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคนรถให้ขับรถไปรับหัวหน้าคนงานที่ถนนลาดพร้าวมาปฏิบัติงานที่บริษัทโชคชัย ถนนราชวิถีเมื่อจำเลยที่1 ขับรถออกไปแล้วได้เอารถไปเอากางเกงที่ตัดไว้ที่ตลาดบางแคเสียก่อน ระหว่างทางไปชนคนตาย 1 คนบาดเจ็บ 1 คน ดังนี้ จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างต้องร่วมรับผิดด้วย (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2503)

ย่อยาว

คดี 2 สำนวนนี้ศาลพิจารณาพิพากษารวมกัน

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ได้ขับรถยนต์ในทางการที่จ้างด้วยความประมาทชนนางชมมารดาโจทก์ในสำนวนที่ 1ตาย และชนโจทก์ในสำนวนที่ 2 บาดเจ็บสาหัส ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดใช้ค่าเสียหาย

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

จำเลยที่ 2 ต่อสู้ว่า เหตุเกิดนอกทางการที่จ้าง

ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างได้ใช้ให้จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์จากบริษัทโชคชัยซึ่งอยู่ที่ถนนราชวิถี จังหวัดพระนครไปรับนายเข่งหัวหน้าคนงานที่ถนนลาดพร้าวจังหวัดพระนคร มาปฏิบัติงานที่บริษัทโชคชัย แต่จำเลยที่ 1 กลับขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ไปตามถนนเพชรเกษมโดยพลการเพื่อไปเอากางเกงที่จำเลยที่ 1 ว่าจ้างตัดไว้ที่ร้านงามศิลป์ ตลาดบางแค โดยมิได้รับความยินยอมจากจำเลยที่ 2แต่อย่างใด แล้วไปชนคนตาย 1 คน บาดเจ็บ 1 คน เป็นการกระทำนอกทางการที่จ้าง เพราะการขับรถไปเอากางเกงไม่ใช่เป็นการกระทำเพื่อจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายจ้าง จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ในสำนวนที่ 1 เป็นเงิน 14,000 บาท และแก่โจทก์ในสำนวนที่ 2 เป็นเงิน 20,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะใช้เงินเสร็จ และยกฟ้องโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ 2

โจทก์อุทธรณ์ทั้งสองสำนวน ขอให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดด้วย

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า พฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ได้นำรถยนต์ขับออกไปจากบ้านจำเลยที่ 2 ในวันเกิดเหตุก็เนื่องจากได้รับคำสั่งของจำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายให้ขับรถออกจากบ้านเพื่อไปรับนายเข่งหัวหน้าคนงานมาปฏิบัติการที่บริษัทโชคชัยถนนราชวิถี เป็นที่เห็นได้ในเบื้องต้นว่าเป็นเรื่องที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างได้กระทำในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้างจำเลยที่ 1 แม้ถึงว่าในขณะที่จำเลยที่ 1 ขับรถพ้นจากบ้านจำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างมาแล้ว จำเลยที่ 1 จะได้เปลี่ยนเส้นทางไปทางบางแคเพื่อเอากางเกงที่จำเลยที่ 1 ตัดไว้ก็ดี การที่จำเลยที่ 2 ยอมมอบหมายให้จำเลยที่ 1 เอารถไปเช่นนี้ แสดงอยู่ว่าจำเลยที่ 2 ไว้ใจในการปฏิบัติของจำเลยที่ 1 หากจำเลยที่ 2 ทราบความก็คงไม่เอาเรื่องเป็นความผิดร้ายแรงถึงขนาดไล่ออกหรือถือว่าเป็นการขโมยรถไปใช้เป็นการละเมิดแต่ประการใด กรณีอาจเป็นได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้บอกกล่าวและได้รับอนุมัติจากจำเลยที่ 2 แล้ว ในการที่จะเอารถไปรับกางเกงที่ตัดไว้หรือมิฉะนั้น ก็อาจเป็นกรณีที่จำเลยที่ 1 ถือวิสาสะกระทำไปโดยความเข้าใจกันในระหว่างจำเลยทั้งสอง หากเกิดเรื่องเสีย จึงบิดเบือนอำความไว้เพื่อจำเลยที่ 2 ไม่ต้องรับผิดฐานละเมิดต่อโจทก์ก็ได้การกระทำใดของลูกจ้างจะเป็นการกระทำไปในทางการที่จ้างอันนายจ้างจะต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 หรือไม่นั้นย่อมเป็นที่รู้กันในระหว่างนายจ้างลูกจ้าง ยากที่คนภายนอกจะทราบได้ตามสภาพของความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง การกระทำของลูกจ้างหากอยู่ในวงการที่จ้างแล้ว ก็พึงฟังไว้ก่อนว่าเป็นการกระทำในทางการที่จ้าง เว้นแต่จะปรากฏเหตุผลเป็นอย่างอื่น มิฉะนั้นแล้ว การเสียหายซึ่งบุคคลที่ 3 ได้รับเนื่องจากการกระทำของลูกจ้างก็ไม่อาจได้รับการเยียวยาให้ผ่อนคลายลงได้

ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่าในกรณีเรื่องนี้ รูปคดีต้องฟังว่า การที่จำเลยที่ 1 ขับรถเพื่อไปเอากางเกงซึ่งตัดไว้ที่บางแคแล้วเกิดชนคนตายและบาดเจ็บนี้ ยังเป็นการปฏิบัติที่จำเลยที่ 1 ได้กระทำไปในทางการที่ จำเลยที่ 2 จ้างจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ตามฟ้อง

ศาลฎีกาพิพากษาแก้ ศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วยทั้งสองสำนวน

Share