คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1711/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ก่อนฟ้องโจทก์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้จำนวนเกินกว่า 30,000 บาทแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง มีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วัน แต่จำเลยไม่ชำระหนี้ โดยจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้ กรณีจึงเข้าข้อสันนิษฐานตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 8 (9) ว่าจำเลยเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ไป ๖ ครั้งเป็นเงิน ๑๘๘,๐๐๐ บาททำสัญญากู้กันไว้ ต่อมาจำเลยผิดนัดไม่ชำระดอกเบี้ยจึงแจ้งบอกเลิกสัญญาและให้ทนายความมีหนังสือทวงถามให้จำเลยชำระหนี้ไม่น้อยกว่า ๒ ครั้งมีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน จำเลยได้รับหนังสือทวงถามแล้วแต่ไม่ยอมชำระหนี้ แสดงว่าจำเลยเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว หนี้ดังกล่าวนี้เป็นหนี้ที่มีจำนวนแน่นอน ขอให้ศาลมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดและพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย
จำเลยให้การว่า โจทก์จำเลยและนายณรงค์ได้ร่วมกันออกเงินให้ผู้อื่นกู้โจทก์มีหน้าที่ออกเงินให้กู้ จำเลยกับนายณรงค์เป็นผู้นำเงินไปให้ผู้อื่นกู้อีกต่อหนึ่งโดยได้ผลประโยชน์เป็นเปอร์เซ็นต์จากดอกเบี้ย การกู้เงินจากโจทก์ทุกครั้งจำเลยเป็นผู้ลงชื่อในสัญญากู้ นายณรงค์ลงชื่อเป็นผู้ค้ำประกัน การกู้ครั้งที่ ๑, ๓ และ ๔ นายณรงค์เป็นผู้รับเงินไป นอกนั้นจำเลยเป็นผู้รับเงินจำเลยได้ชำระเงินคืนให้โจทก์ไปแล้วคงเหลือเป็นหนี้อยู่เพียง ๑,๕๐๐ บาท จำเลยมีทรัพย์สินพอชำระหนี้ ไม่ได้เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวดังฟ้องขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๔
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ก่อนฟ้องโจทก์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้จำนวนเกินกว่า ๓๐,๐๐๐ บาทไม่น้อยกว่าสองครั้ง และมีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน แต่จำเลยไม่ชำระหนี้ โดยจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้กรณีจึงเข้าข้อสันนิษฐานตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๘(๙) ว่าจำเลยเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ที่ศาลล่างให้พิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๔ ชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share