แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
ศาลล่างทั้งสองวางโทษจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ไม่ต้องตามบทบัญญัติของ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 66 วรรคสอง (เดิม) โดยลงโทษต่ำกว่าอัตราโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้ แต่โจทก์มิได้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ จึงไม่อาจแก้ไขกำหนดโทษให้เป็นไปตามบทกฎหมายได้ เพราะจะเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยทั้งสอง ซึ่งต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 212 ประกอบด้วยมาตรา 225
ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาได้มี พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5)ฯ มาตรา 19 ที่ยกเลิกความในมาตรา 66 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ และให้ใช้ข้อความใหม่แทน โดยมาตรา 66 วรรคหนึ่ง ที่แก้ไขใหม่แตกต่างจากมาตรา 66 วรรคหนึ่งตามกฎหมายเดิม โทษจำคุกตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่เป็นคุณมากกว่า จึงต้องใช้กฎหมายที่แก้ไขใหม่บังคับแก่จำเลยทั้งสองตาม ป.อ. มาตรา 3 ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาจึงมีอำนาจยกขึ้นอ้างและแก้ไขโดยปรับบทกฎหมายให้ถูกต้อง รวมทั้งแก้ไขโทษเสียใหม่ให้เหมาะสมสอดคล้องกับกฎหมายที่แก้ไขใหม่ได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 83, 91 พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 3, 10, 12 ริบโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางและเมทแอมเฟตามีนของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง และจำเลยที่ 1 ยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 10 การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ให้จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 90 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 มีกำหนด 30 ปี ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 135 ปี จำเลยที่ 2 มีกำหนด 45 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กระทงละกึ่งหนึ่ง ฐานร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ให้จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 45 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 มีกำหนด 15 ปี ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 67 ปี 6 เดือน จำเลยที่ 2 มีกำหนด 22 ปี 6 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 112 ปี 6 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 37 ปี 6 เดือน แต่คงจำคุกจำเลยที่ 1 ได้เพียง 50 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3) ริบโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลข 01-8514844 ของกลางกับเมทแอมเฟตามีนของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 66 วรรคสอง (เดิม) (ที่ถูกมาตรา 15 วรรคสอง (เดิม) ด้วย) จำคุกจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนมีกำหนด 50 ปี ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายมีกำหนด 50 ปี จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กระทงละกึ่งหนึ่ง คงลงโทษฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้จำคุก 25 ปี ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำคุก 25 ปี รวมจำคุก 50 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบานั้น เห็นว่า ในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้น โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดโรงเรียนการบินทหารบกจังหวัดลพบุรี ร่วมกับจำเลยที่ 2 มีเมทแอมเฟตามีน ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำนวน 7,000 เม็ด น้ำหนัก 644.30 กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 143.67 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสอง (เดิม), 66 วรรคสอง (เดิม) ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต จำเลยที่ 1 เป็นข้าราชการทหาร ซึ่งพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 10 บัญญัติให้ต้องระวางโทษเป็นสามเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น แต่เมื่อบทบัญญัติของกฎหมายมีระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตแล้ว จึงไม่อาจวางโทษเป็นสามเท่าตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติดังกล่าวได้อีก ทั้งไม่อาจนำมาตรา 10 แห่งบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวมาปรับด้วยได้ จำเลยที่ 1 คงมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสอง (เดิม), 66 วรรคสอง (เดิม) เท่านั้น ซึ่งคงวางโทษจำเลยที่ 1 ได้เพียงจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วางโทษจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายมีกำหนด 50 ปี และศาลล่างทั้งสองวางโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานดังกล่าวมีกำหนด 45 ปี นั้น ไม่ต้องตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 66 วรรคสอง (เดิม) โดยลงโทษต่ำกว่าอัตราโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้ แต่โจทก์มิได้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ จึงไม่อาจแก้ไขกำหนดโทษให้เป็นไปตามบทกฎหมายดังกล่าวได้ เพราะจะเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยทั้งสอง ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212 ประกอบด้วยมาตรา 225 สำหรับความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนนั้น โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนจำนวน 2,000 เม็ด น้ำหนักไม่ปรากฏชัด ให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อไปในราคา 80,000 บาท โดยไม่ปรากฏว่ามีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้เท่าใด กรณีต้องด้วยบทกำหนดโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 66 วรรคหนึ่ง แต่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกามีพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 มาตรา 19 ที่ยกเลิกความในมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และให้ใช้ข้อความใหม่แทน โดยมาตรา 66 วรรคหนึ่ง ที่แก้ไขใหม่ แตกต่างจากมาตรา 66 วรรคหนึ่ง ตามกฎหมายเดิม โทษจำคุกตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่เป็นคุณมากกว่า จึงต้องใช้กฎหมายที่แก้ไขใหม่บังคับแก่จำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาจึงมีอำนาจยกขึ้นอ้างและแก้ไขโดยปรับบทกฎหมายให้ถูกต้อง รวมทั้งแก้ไขโทษสำหรับจำเลยทั้งสองเสียใหม่ให้เหมาะสมสอดคล้องกับกฎหมายที่แก้ไขใหม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง (เดิม), วรรคสอง (เดิม), 66 วรรคหนึ่ง (ที่แก้ไขใหม่), วรรคสอง (เดิม) ในความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ลงโทษจำเลยที่ 2 จำคุก 15 ปี สำหรับจำเลยที่ 1 ต้องระวางโทษเป็นสามเท่าตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 10 จึงวางโทษจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 45 ปี ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้แก่จำเลยทั้งสองกึ่งหนึ่ง ในความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนคงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 22 ปี 6 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 7 ปี 6 เดือน เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวมกับโทษในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย คงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้มีกำหนด 47 ปี 6 เดือน และสำหรับจำเลยที่ 2 รวมโทษจำคุก 22 ปี 6 เดือนในความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง คงลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้มีกำหนด 29 ปี 12 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1