แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สามีโจทก์เอาประกันชีวิตไว้กับจำเลย โดยโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันชีวิตมีเงื่อนไขว่า ถ้าสามีโจทก์ถึงแก่ความตายโดยอุบัติเหตุจำเลยจะใช้เงินเป็นจำนวนสองเท่าของจำนวนที่เอาประกัน ระหว่างอายุสัญญา สามีโจทก์เป็นลมล้มลงศีรษะฟาดพื้นสมองได้รับความกระทบกระเทือนถึงแก่ความตาย ดังนี้เห็นได้ว่าที่ผู้ตายเป็นลมหกล้มเป็นเรื่องเกิดขึ้นโดยบังเอิญปราศจากเจตนาและความคาดหมายของผู้ตาย จึงถือได้ว่าผู้ตายตายเพราะอุบัติเหตุตามกรมธรรม์ประกันชีวิต จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้เงินให้โจทก์สองเท่าตามสัญญา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘ นายมานิตย์ โชติภิวงศ์ สามีโจทก์ได้เอาประกันชีวิตและอุบัติเหตุกับจำเลยเป็นเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้โจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ ต่อมา พ.ศ.๒๕๒๐ นายมานิตย์ประสบอุบัติเหตุลื่นล้มศีรษะฟาดพื้นสมองกระทบกระเทือนช้ำบวมถึงแก่ความตาย จำเลยจะต้องจ่ายค่าประกันชีวิต ๒๐๐,๐๐๐ บาทแก่ค่าประกันอุบัติเหตุอีก ๒๐๐,๐๐๐ บาท แต่จำเลยบิดพลิ้วขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่านายมานิตย์ผู้ตายแถลงข้อเท็จจริงอันเป็นเท็จเกี่ยวกับสุขภาพ สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ จำเลยได้บอกล้างแล้ว ผู้ตายมิได้ตายโดยอุบัติเหตุ ผู้ตายขาดส่งเบี้ยประกันกรมธรรม์ขาดบังคับ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ ๔๐๐,๐๐๐ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียม
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นายมานิตย์สามีโจทก์ได้เอาประกันชีวิตไว้กับบริษัทจำเลยเป็นทุนประกัน ๒๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้โจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ ถ้านายมานิตย์ถึงแก่กรรมโดยอุบัติเหตุ จำเลยจะจ่ายเงินประกันชีวิตให้ ๔๐๐,๐๐๐ บาท นายมานิตย์ล้มฟาดพื้นสมองได้รับความกระทบกระเทือนและถึงแก่กรรม จำเลยฎีกาว่านายมานิตย์ขาดส่งเบี้ยประกันชีวิตปีที่ ๓ แต่พยานหลักฐานฟังได้ว่านายมานิตย์สามีโจทก์ไม่เคยขาดส่งเบี้ยประกัน และไม่เคยขอต่ออายุกรมธรรม์ประกันชีวิตกับจำเลย
สำหรับปัญหาว่านายมานิตย์ถึงแก่กรรมโดยอุบัติเหตุหรือไม่นั้นตามกรมธรรม์ประกันชีวิต เอกสาร จ.๑ ให้คำจำกัดความคำว่า “อุบัติเหตุ” หมายถึงเหตุการณ์อันเป็นปัจจัยภายนอกซึ่งรุนแรงและแลเห็นได้ บันดาลให้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ปราศจากเจตนาและความคาดหมายของบุคคลใด ๆ และได้ความจากแบบฟอร์มถ้อยคำแพทย์ผู้รักษา เอกสาร จ.๒ ประกอบด้วยบัตรตรวจโรคของโรงพยาบาลสตูล เอกสาร ล.๓ ว่าผู้ตายไปรับการรักษาเมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๒๐ เพราะเป็นลม หกล้มศีรษะฟาดพื้น ไม่ได้สิต ศีรษะด้านหลังบวมม่านตาเปิดขยายเต็มที่ทั้งสองข้าง ต่อมาวันที่ ๑๐ เดือนนั้นเอง เวลา ๓.๐๐ น. ผู้ตายถึงแก่ความตายด้วยสาเหตุสมองกระทบกระเทือน ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าการที่ผู้ตายเป็นลมหกล้มเป็นเรื่องเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ปราศจากเจตนาและความคาดหมายของผู้ตาย เมื่อการหกล้มทำให้ศีรษะฟาดพื้นเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะสมองกระทบกระเทือนอย่างแรงจึงถือว่าตายเพราะอุบัติเหตุตามกรมธรรม์ประกันชีวิต เอกสาร จ.๑ แล้ว จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้เงินให้โจทก์ตามที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยมา ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน