คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้สัญญาจำนองกำหนดดอกเบี้ยตามอัตราที่กฎหมายกำหนด แต่ผู้จำนองผู้รับจำนองตกลงกันนอกสัญญากำหนดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ อันเป็นความผิดทางอาญา เมื่อผู้จำนองชำระดอกเบี้ยให้ไป ย่อมไม่มีสิทธิจะเรียกคืนได้ และไม่มีสิทธิจะเอาดอกเบี้ยส่วนที่ชำระเกินคิดหักชำระต้นเงิน
ผู้รับจำนองฟ้องขอให้ผู้จำนองไถ่ถอนจำนองผู้จำนองให้การว่า ผู้รับจำนองไม่ได้บอกกล่าวบังคับจำนองวันชี้สองสถานคู่ความแถลงรับว่ายินดีไถ่ถอนการจำนอง เพียงแต่โต้เถียงกันเรื่องจำนวนเงินที่จะไถ่ถอนดังนี้ถือว่า คู่ความไม่ติดใจโต้เถียงกันเรื่องการบังคับจำนองเมื่อศาลชี้ขาดถึงจำนวนเงินที่ต้องชำระกัน ก็ชอบจะพิพากษาบังคับจำนองไปได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำนองที่ดินไว้กับจำเลย โจทก์ได้ชำระต้นเงินและดอกเบี้ยบางส่วนไปแล้ว โจทก์ขอไถ่จำนอง จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยรับการไถ่ถอนจำนอง

จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่าโจทก์ผ่อนชำระต้นเงินครั้งแรกแล้วไม่ได้ชำระให้อีก ส่วนดอกเบี้ยยังคงค้างชำระอีก ขอให้โจทก์ไถ่ถอนจำนองตามจำนวนเงินที่ค้าง

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์จะต้องชำระต้นเงินตามฟ้องจำเลยผิดนัด โจทก์ไม่ต้องรับผิดสำหรับดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง จำเลยไม่ได้แจ้งการบังคับจำนองให้โจทก์ทราบ ไม่ควรรับฟ้องแย้ง

วันชี้สองสถาน คู่ความแถลงรับกันว่ายินดีไถ่ถอนจำนอง แต่เกี่ยงเรื่องต้นเงินและดอกเบี้ยที่ค้าง

ศาลชั้นต้นยกฟ้องและฟ้องแย้งของโจทก์จำเลย

โจทก์จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยรับไถ่ถอนการจำนองจากโจทก์เป็นเงิน 78,968.75 บาท

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ตามสัญญาระบุว่าคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 1.25 บาท ต่อเดือนก็ดี เมื่อโจทก์จำเลยไปตกลงกันนอกสัญญาเรื่องชำระดอกเบี้ยเกินกว่าที่ระบุไว้ในสัญญา (ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.1) ว่าเป็นดอกเบี้ยเดือนละ 1,900 บาท ซึ่งเป็นการคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้อันเป็นความผิดทางอาญา เมื่อโจทก์ได้ชำระไปแล้วก็ไม่มีสิทธิที่จะเรียกคืนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 411 โจทก์จะเอาดอกเบี้ยส่วนที่ชำระเกินไปจากสัญญามาคิดหักเป็นการชำระต้นเงินไม่ได้

และที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยไม่ได้บอกกล่าวบังคับจำนองก่อนจึงฟ้องแย้งบังคับจำนองไม่ได้นั้น ศาลฎีกาก็ไม่เห็นพ้องด้วยเพราะคดีนี้ในวันชี้สองสถานคู่ความต่างแถลงรับแล้วว่ายินดีไถ่ถอนการจำนองรายนี้ จึงถือได้ว่าคู่ความไม่ติดใจโต้เถียงเรื่องการบังคับจำนองแล้ว เพียงแต่โต้แย้งกันเรื่องจำนวนเงินที่จะไถ่ถอนเท่านั้น ฉะนั้น เมื่อศาลได้ชี้ขาดถึงจำนวนเงินที่จะต้องชำระกันแล้วก็ชอบที่จะพิพากษาบังคับจำนองไปได้

พิพากษาแก้ ให้โจทก์ชำระต้นเงิน 95,000 บาท กับดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 1.25 บาท ต่อเดือน นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2505 จนกว่าจะชำระเสร็จ

Share