แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเคยถูกลงโทษฐานลักเล่นการพนันไพ่พ้นโทษไปยังไม่เกิน 3 ปีมากระทำผิดฐานเล่นการพนันไพ่นกกระจอกโดยมิได้รับอนุญาตอีกศาลตัดสินลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2485 มาตรา 3 จำคุก 10 วัน ปรับ 40 บาท แต่โทษจำให้ยกเสียตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 40 ได้ ไม่เป็นการขัดแย้งกับพระราชบัญญัติการพนัน (ฎีกาที่ 277/2482)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันเล่นการพนันไพ่นกกระจอกโดยมิได้รับอนุญาต นางบ๊วยผู้เข้าเล่นเคยถูกลงโทษฐานลักเล่นการพนันไพ่ พ้นโทษไปยังไม่เกิน 3 ปี มากระทำผิดขึ้นอีก
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุกนางบ๊วย ตามพระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2485 มาตรา 3 มีกำหนด 20 วัน ปรับอีก 60 บาทลดฐานสารภาพแล้ว คงจำคุกนางบ๊วย 10 วัน ปรับ 40 บาท
นางบ๊วยอุทธรณ์ขอให้ยกโทษจำคุก
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกโทษจำคุกให้แก่นางบ๊วยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 40 นอกนั้นยืน
โจทก์ฎีกาว่า พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2485 มาตรา 3 บัญญัติให้วางโทษทั้งจำคุกและปรับ ศาลอุทธรณ์จะยกกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 40 มาใช้ไม่ได้ เพราะพระราชบัญญัติการพนันเป็นกฎหมายพิเศษ
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลอุทธรณ์ก็ได้ลงโทษจำคุกนางบ๊วยแล้วหากแต่เห็นว่ามีเหตุอันควรที่จะยกโทษจำคุกให้แก่นางบ๊วยเสียตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 40
ปัญหาที่ว่า ศาลจะยกกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 40 มาใช้ได้หรือไม่นั้น เรื่องทำนองนี้ได้เคยมีคำพิพากษาศาลฎีกา วินิจฉัยเป็นแบบอย่างไว้แล้ว คือฎีกาที่ 277/2482 ระหว่างอัยการพิจิตร โจทก์นายโชติ กับพวก จำเลย ว่า ศาลมีอำนาจยกมาตรา 40 แห่งกฎหมายลักษณะอาญามาใช้ได้ มิได้เป็นการขัดแย้งกันจึงพิพากษายืน