คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1699/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้จำเลยจะได้จำนำรถจักรยานของจำเลยไว้กับผู้เสียหายจำเลยก็ไม่มีเหตุอันสมควรที่จะลักลอบเข้าไปเอารถจักรยานดังกล่าวในบ้านของผู้เสียหายในเวลา 5.30 น. จำเลยจึงมีความผิดฐานบุกรุก
จำเลยเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายเพื่อเอารถจักรยานของจำเลย เมื่อผู้เสียหายส่องไฟฉายมาที่จำเลย จำเลยก็ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายแล้วจึงเอารถจักรยานไป พฤติการณ์ดังกล่าวยังไม่แน่ชัดว่าจำเลยกระทำไปเพื่อปกปิดความผิดฐานบุกรุก จำเลยอาจยิงผู้เสียหายเพื่อไม่ให้ผู้เสียหายขัดขวางการเข้าไปเอารถจักรยานของจำเลยในบ้านผู้เสียหายก็ได้ แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องถึงความผิดในส่วนนี้ของจำเลย จึงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ประกอบกับมาตรา 80 ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืนบุกรุกเข้าไปในบ้านซึ่งเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายแล้วเอารถจักรยานสองล้อซึ่งจำเลยจำนำไว้แก่ผู้เสียหายไปเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหายผู้รับจำนำ และในระหว่างเวลาที่จำเลยเอารถจักรยานสองล้อคันดังกล่าวไป ผู้เสียหายได้พบเห็นการกระทำของจำเลย จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายเพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแก่การที่จำเลยได้กระทำความผิดฐานโกงเจ้าหนี้และเพื่อปกปิดความผิดฐานบุกรุกเคหสถานและฐานฉ้อโกงเจ้าหนี้ของจำเลย แต่กระสุนปืนที่จำเลยยิงไปถูกอวัยวะที่ไม่สำคัญ ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๔, ๓๖๕, ๓๔๖, ๒๘๙, ๘๐, ๙๑ และริบเม็ดตะกั่วกระสุนปืนลูกซองของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบกับมาตรา ๘๐ ลงโทษจำคุก ๑๐ ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๕ ปี ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยกและริบเม็ดตะกั่วกระสุนปืนของกลาง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๕ จำคุก ๒ ปี และมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ (๗) ประกอบด้วยมาตรา ๘๐ อีกกระทงหนึ่ง จำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากความผิดตามมาตรา ๒๘๙ (๗),๘๐ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต จึงไม่นำโทษจำคุกในความผิดฐานบุกรุกมารวมลงโทษจำเลยอีกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ที่แก้ไขใหม่ จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๒๕ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยในชั้นฎีกาว่าจำเลยมีความผิดฐานบุกรุกด้วยหรือไม่นั้น คดีนี้เหตุเกิดเวลา ๐๕.๓๐ น. แม้จำเลยจะเป็นเจ้าของรถจักรยานที่จำเลยเอาไปจำนำไว้กับผู้เสียหายและจำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายเพื่อเอารถจักรยานคืนจากผู้เสียหายก็ตามแต่จำเลยก็ไม่สมควรลักลอบเข้าไปในบ้านอันเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายในเวลาค่ำคืนเช่นนั้น ถือได้ว่าจำเลยเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุอันสมควร จึงมีความผิดฐานบุกรุกด้วย ส่วนในข้อที่ว่าจำเลยพยายามฆ่าผู้เสียหายเพื่อปกปิดความผิดของจำเลยหรือไม่นั้น เห็นว่า จำเลยเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายเพื่อเอารถจักรยานของจำเลย เมื่อผู้เสียหายส่องไฟฉายมาที่จำเลย จำเลยก็ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายแล้วจึงเอารถจักรยานไป พฤติการณ์เช่นนี้ยังไม่แน่ชัดว่าจำเลยกระทำไปเพื่อปกปิดความผิดฐานบุกรุก จำเลยอาจยิงผู้เสียหายเพื่อไม่ให้ผู้เสียหายขัดขวางการเข้าไปเอารถจักรยานของจำเลยในบ้านผู้เสียหายก็ได้ แต่โจทก์ก็มิได้บรรยายฟ้องถึงความผิดในส่วนนี้ของจำเลย จึงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ ประกอบกับมาตรา ๘๐ ไม่ได้
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบกับมาตรา ๘๐ จำคุก ๑๐ ปี รวมโทษในความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๕ จำคุก ๒ ปีเป็นจำคุก ๑๒ ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๖ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share