คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช็คที่ฟ้องร้องกันเป็นเช็คออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ จำเลยเป็นผู้ถือย่อมเป็นผู้ทรงเช็ค เมื่อเช็คถึงกำหนด จำเลยจึงนำเช็คไปขอรับเงินจากธนาคาร แต่ถูกธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน จำเลยจึงฟ้องกล่าวหาโจทก์ว่าโจทก์กระทำผิดอาญาโดยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2497 มาตรา 3 ข้อความที่จำเลยกล่าวหาโจทก์ว่ากระทำผิดทางอาญาจึงอยู่ที่ข้อความตามที่พระราชบัญญัติดังกล่าวได้บัญญัติไว้นั้น หาใช่อยู่ที่ข้อความว่าโจทก์สั่งจ่ายเช็คนั้นให้แก่ผู้ใด และจ่ายเช็คนั้นเป็นการชำระหนี้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งซึ่งมิใช่จำเลยหรือไม่(อ้างฎีกาที่ 284/2507)ดังนั้นฟ้องของจำเลยจึงไม่เป็นฟ้องเท็จ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเอาความที่รู้ว่าเป็นเท็จฟ้องโจทก์ต่อศาลอาญากล่าวหาว่าโจทก์ออกเช็คสั่งจ่ายเงินสด 30,000 บาท ให้แก่จำเลยเพื่อชำระหนี้ เมื่อเช็คถึงกำหนดจำเลยรับเงินไม่ได้โดยธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เพราะผู้สั่งจ่ายระงับการจ่ายไว้จำเลยจึงกล่าวหาว่าโจทก์ออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ซึ่งความจริงโจทก์ไม่มีหนี้สินผูกพันกับจำเลย และเช็คฉบับนั้นโจทก์ก็ออกให้แก่นายศาสตราเพื่อให้นายศาสตราซื้อน้ำมันหยอดเครื่องจากบริษัทชาลี โดยนายศาสตราจะนำเอกสารเพื่อรับน้ำมันมาให้แก่โจทก์แต่นายศาสตรามิได้นำมามอบ โจทก์จึงสั่งให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินเช็คตกไปอยู่ในความครอบครองของจำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 175

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นเห็นว่า การที่จำเลยฟ้องโจทก์ เป็นการใช้สิทธิป้องกันผลประโยชน์ของจำเลยโดยชอบ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เช็คที่ฟ้องร้องกันนี้เป็นเช็คออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ จำเลยเป็นผู้ถือย่อมเป็นผู้ทรงเช็ค เมื่อเช็คถึงกำหนดจำเลยจึงนำเช็คนั้นไปรับเงินจากธนาคาร แต่ถูกธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน จำเลยจึงฟ้องกล่าวหาโจทก์ว่าโจทก์กระทำความผิดอาญาโดยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ซึ่งมีความว่า “ผู้ใด (1) ออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ฯลฯถ้าธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็ค…”ข้อความที่จำเลยกล่าวหาโจทก์กระทำความผิดอาญา จึงอยู่ที่ข้อความตามที่พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คได้บัญญัติไว้ดังกล่าวนั้น หาใช่อยู่ที่ข้อความว่าโจทก์สั่งจ่ายเช็คนั้นให้แก่ผู้ใด และจ่ายเช็คนั้นเป็นการชำระหนี้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งซึ่งมิใช่จำเลยหรือไม่ (อ้างฎีกาที่ 284/2507)

พิพากษายืน

Share