แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยถูกผู้ตายเอามือค้ำคอโดยจำเลยไม่ทราบว่าเป็นใครเพราะอยู่ในที่มืดเมื่อจำเลยใช้ขวานฟันผู้ตายครั้งที่หนึ่งแล้ว ไม่ปรากฏว่าผู้ตายได้กระทำอะไรแก่จำเลยอีกเลย การที่จำเลยฟันครั้งที่สองอีกจนผู้ตายถึงตายการกระทำของจำเลยจึงเป็นการเกินสมควรแก่เหตุ ต้องมีผิดตามมาตรา 251,53 กฎหมายลักษณะอาญา.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่านายเขียนตายโดยเจตนา จำเลยต่อสู้ว่าทำโดยป้องกันตัว ศาลชั้นต้นฟังว่า นายเขียนผู้ตายเมาสุราถือมีดและเอามือค้ำคอจำเลยโดยไม่ทราบว่าเป็นใคร จำเลยจึงได้ฟันนายเขียนเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ให้จำคุก 5 ปี
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยถูกนายเขียนเอามือค้ำคอโดยจำเลยไม่ทราบว่าเป็นใคร เมื่อจำเลยใช้ขวานฟันนายเขียนครั้งที่หนึ่งแล้วไม่ปรากฏว่านายเขียนได้ทำอะไรแก่จำเลยอีกเลย การที่จำเลยฟันนายเขียนครั้งที่ 2 อีกจนนายเขียนถึงตาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเกินสมควรแก่เหตุ
พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ตามมาตรา251 ประกอบด้วย มาตรา 53 จำคุก 1 ปีแต่ให้รอการลงอาญาไว้