คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1694/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขายทอดตลาดทรัพย์ของโจทก์โดยเชื่อทหารอังกฤษซึ่งเป็นผู้สั่งให้ขาย โจทก์มาคัดค้านในขณะขาย แต่จำเลยคงขืนขายทอดตลาดไปย่อมเป็นการละเมิดต่อโจทก์เจ้าของทรัพย์แม้จำเลยทำแทนผู้อื่นก็ไม่พ้นความรับผิด
ข้อที่จำเลยอ้างว่าขายโดยคำสั่งของทางสหประชาชาตินั้นจำเลยจะต้องแสดงว่าสหประชาชาติมีสิทธิประการใดที่จะมาขายทรัพย์ของโจทก์ ส่วนที่จำเลยอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมจัดกิจการและทรัพย์สิน ฯลฯ นั้นก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้กระทำไปตามคำสั่งของคณะกรรมการตาม พ.ร.บ. นั้นจำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์

ย่อยาว

ได้ความว่า จำเลยได้ทำการขายทอดตลาดโรงเรือน 5 หลังและไม้ต่าง ๆ ของโจทก์ตามคำสั่งสหประชาชาติเป็นเงิน 15,050 บาท ขณะขายทอดตลาดมีนายทหารอังกฤษอยู่ด้วย โจทก์ได้คัดค้านโต้ตอบกับนายทหารผู้นั้น นายทหารผู้นั้นยืนยันให้ขาย

จำเลยต่อสู้ว่า ที่จำเลยจัดการขายเป็นเพียงตัวแทน โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง ควรไปว่ากล่าวเอาแก่สหประชาชาติ หากรับผิดก็รับผิดร่วมกับสหประชาชาติ

ศาลชั้นต้นเห็นว่า สหประชาชาติให้อำนาจจำเลยเป็นผู้ขายจำเลยอยู่ในฐานะตัวแทน การกระทำของจำเลยสุจริต โจทก์ทราบถึงตัวการแล้วฟ้องจำเลยไม่ได้ ยกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ทรัพย์พิพาทเป็นของโจทก์ โจทก์ได้คัดค้านขณะขาย จำเลยขืนทำไปตามคำสั่งผู้อื่นโดยไม่มีอำนาจเหนือทรัพย์สินถือไม่ได้ว่าเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยสุจริตก็ต้องรับผิดฐานละเมิด พิพากษากลับ

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยขายทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยไม่มีอำนาจต้องรับผิดฐานละเมิดต่อเจ้าทรัพย์ แม้ทำแทนผู้อื่นก็ไม่พ้นความรับผิด โจทก์บอกก่อนแล้วว่าทรัพย์เป็นของโจทก์ จำเลยก็ยังขืนขายไปโดยเชื่อทหารอังกฤษจะอ้างความสุจริตมาแก้ตัวไม่ได้ จำเลยมิได้แสดงให้เห็นว่าสหประชาชาติมีสิทธิประการใดมาขายทรัพย์ของโจทก์ พระราชบัญญัติควบคุมกิจการทรัพย์สินฯ ระบุให้มีคณะกรรมการคดีนี้ไม่ปรากฏว่า จำเลยได้กระทำตามคำสั่งคณะกรรมการ ไม่มีเหตุจะอ้างพระราชบัญญัตินี้ พิพากษายืน

Share