แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 เป็นสมาคมได้จัดตั้งโต๊ะบิลเลียดเพียง4 โต๊ะโดยจำเลยที่ 1 เก็บเงินค่าเกมส์ จากผู้เล่นในอัตราชั่วโมงละ 60 บาทต่อหนึ่งโต๊ะ ซึ่งถือได้ว่าเป็นค่าเกมส์ตามสมควร และไม่ปรากฏว่ามีการพนันเอาทรัพย์สินกันจึงเป็นการจัดขึ้นเพื่อความรื่นเริงในสมาคม การจัดให้มีการเล่นในสมาคมของจำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องมีใบอนุญาตตามกฎกระทรวงฉบับที่ 17 พ.ศ. 2503 ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 18(พ.ศ. 2504) ข้อ 5 ส่วนการที่จำเลยที่ 1 มีวัตถุประสงค์จะไม่จัดตั้งโต๊ะบิลเลียดไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้นแต่กลับมาจัดตั้งโต๊ะบิลเลียดดังกล่าวก็เป็นเพียงฝ่าฝืนกฎหมายอื่นเท่านั้น หาเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งได้รับอนุญาตตั้งเป็นสมาคมจากนายทะเบียนท้องที่ โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดการโดยไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อจะจัดตั้งโต๊ะบิลเลียดไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น ได้ร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายกล่าวคือ จำเลยทั้งสองร่วมกันจัดให้มีการเล่นบิลเลียดอันเป็นการเล่นตามบัญชี ข. ลำดับที่ 23 ท้ายพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 จำนวน 4 โต๊ะ อันเป็นการหาผลกำไรมาแบ่งปันกันและเป็นการกระทำเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนโดยจำเลยทั้งสองไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 10, 12, 17 กฎกระทรวง ฉบับที่ 18 (พ.ศ. 2504) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ข้อ 5(2) พระราชบัญญัติการพนัน(ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2505 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83และขอให้ริบของกลางด้วย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 10, 12, 12, 17 กฎกระทรวงฉบับที่ 18 (พ.ศ. 2504) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 ข้อ 5(2) พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2505(ที่ถูกเป็น 2504) มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 1,500 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 กำหนด 1 เดือนและปรับ 1,500 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 เคยต้องโทษจำคุกมาก่อนให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า จำเลยที่ 1เป็นสมาคมตามกฎหมาย มีจำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการ มีวัตถุประสงค์8 ข้อ โดยข้อ 8 มีวัตถุประสงค์ว่าจะไม่จัดตั้งโต๊ะบิลเลียดไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น ปรากฏตามสำเนาทะเบียนสมาคม เอกสารหมาย จ.4, จ.5 ตามวันเวลาเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 จัดตั้งโต๊ะบิลเลียด จำนวน 4 โต๊ะในสมาคมจำเลยที่ 1 โดยเก็บเงินค่าเกมส์ จากผู้เข้าเล่นบิลเลียดในอัตราชั่วโมงละ 60 บาท ต่อหนึ่งโต๊ะ คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นบิลเลียดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 วรรค 2 บัญญัติว่า “การเล่นอันระบุไว้ในบัญชี ข. ท้ายพระราชบัญญัตินี้หรือการเล่นซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกัน หรือการเล่นอื่นใดซึ่งรัฐมนตรีเจ้าหน้าที่ได้ออกกฎกระทรวงระบุเพิ่มเติมไว้ จะจัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่ผู้จัดโดยตรงหรือทางอ้อมได้ต่อเมื่อรัฐมนตรีเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตเห็นสมควรและออกใบอนุญาตให้หรือมีกฎกระทรวงอนุญาตให้จัดขึ้นโดยไม่ต้องมีใบอนุญาตและมีกฎกระทรวง ฉบับที่ 17 (พ.ศ. 2503) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2503 ข้อ 13 แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงฉบับที่ 18 (พ.ศ. 2504) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2504 ข้อ 5 บัญญัติว่า “ข้อ 13 การพนันตามบัญชี ข. ดังต่อไปนี้ ให้จัดขึ้นได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาต (2) บิลเลียด เพื่อความรื่นเริงในสมาคมจำนวนไม่เกินห้าโต๊ะ โดยสมาคมเก็บค่าเกมส์ ตามสมควรหรือในเคหสถานที่มีบริเวณกว้างขวางและรั้วรอบมิดชิด จำนวนไม่เกินหนึ่งโต๊ะโดยผู้จัดให้มีการเล่นหรือเจ้าบ้าน แล้วแต่กรณี มิได้เรียกเก็บหรือรับผลประโยชน์ในทางตรงหรือทางอ้อมจากการเล่นนั้น”การเล่นบิลเลียดเป็นการเล่นตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่ 23ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 จำเลยที 1 เป็นสมาคมได้จัดตั้งโต๊ะบิลเลียดเพียง 4 โต๊ะ โดยจำเลยที่ 2 เก็บเงินค่าเกมส์ จากผู้เล่นในอัตราชั่วโมงละ 60 บาทต่อหนึ่งโต๊ะซึ่งถือได้ว่าเป็นค่าเกมส์ตามสมควร และไม่ปรากฏว่ามีการพนันเอาทรัพย์สินกัน จึงเป็นการจัดขึ้นเพื่อความรื่นเริงในสมาคม การจัดให้มีการเล่นในสมาคมของจำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องมีใบอนุญาตตามกฎกระทรวงดังกล่าว ส่วนการที่จำเลยที่ 1 มีวัตถุประสงค์จะไม่จัดตั้งโต๊ะบิลเลียดไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น แต่กลับมาจัดตั้งโต๊ะบิลเลียดดังกล่าวก็เป็นเพียงฝ่าฝืนกฎหมายอื่นเท่านั้นหาเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ดังโจทก์ฟ้องไม่”
พิพากษายืน