คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยทั้ง 2 ผลัดกันจับแขนเด็กหญิงน้อยอายุเพียง 13 ปี 3 เดือน แล้วผลัดกันข่มขืนชำเราข้างทางเดินในเวลากลางวันจนสำเร็จความใคร่คนละครั้ง นั้น เป็นการโทรมหญิงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 281 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2503)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้ง 2 ร่วมกันข่มขืนชำเราเด็กหญิงน้อยอายุ 13 ปี โดยผลัดกันจับแขนผู้เสียหายแล้วผลัดกันข่มขืนชำเราต่อหน้าเด็กชายคำจนสำเร็จความใคร่คนละครั้งอันเป็นการโทรมหญิงขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 277, 281, 83

จำเลยให้การว่า ได้ชำเราจริง แต่โดยเด็กหญิงน้อยสมัครใจและมีอายุ 15 ปีแล้วศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทำผิดจริงตามฟ้อง โดยเด็กหญิงน้อยมีอายุ 13 ปี ให้จำคุกคนละ 2 ปี 8 เดือน (ลด 1 ใน 3) ตามมาตรา 276, 277, 281, 83, 78

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยทั้ง 2 ข่มขืนชำเราเด็กหญิงน้อยจริง แต่เด็กหญิงน้อยมีอายุ 13 ปี 3 เดือนแล้ว และมิได้กระทำต่อหน้าเด็กชายคำ ทั้งไม่เป็นการโทรมหญิง กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ตามมาตรา 281 ปรากฏว่าบิดาเด็กหญิงน้อยได้ยอมรับขมาและรับเงินค่าทำขวัญจากจำเลยคนละ 50 บาท แล้ว คดีระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า การที่จำเลยทั้ง 2 ผลัดกันจับแขนเด็กหญิงน้อยซึ่งมีอายุเพียง 13 ปี 3 เดือน แล้วผลัดกันข่มขืนชำเราที่พื้นดินข้างทางเดินในเวลากลางวันจนสำเร็จความใคร่คนละครั้งนั้น เป็นการโทรมหญิงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 281 จะยอมความกันไม่ได้

พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276, 83, 78 ส่วนกำหนดโทษคงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share