คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษฐานฆ่าคนและมีปืนเป็น 2 กระทงจำเลยฎีกา ศาลฎีกายกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย แม้ข้อหาฐานมีปืนต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง เมื่อข้อสงสัยนั้นคือจำเลยใช้ปืนของกลางยิงผู้ตายหรือไม่ ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องฐานมีปืนด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ จำคุก 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “พยานโจทก์ยังเป็นที่สงสัยควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้เป็นผลดีแก่จำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 227 ส่วนข้อหาฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ซึ่งต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงนั้น ศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185ประกอบด้วยมาตรา 225 ซึ่งศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงยังเป็นที่สงสัยว่าจำเลยใช้อาวุธปืนของกลางยิงผู้ตาย และอาวุธปืนของกลางเป็นปืนที่ผู้อื่นนำไปจำนำไว้โดยจำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ดังที่ได้วินิจฉัยไว้แล้ว จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางไว้โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังขึ้น ไม่จำต้องวินิจฉัยพยานจำเลย แต่ของกลางคืออาวุธปืนและกระสุนปืนเป็นทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิด ปลอกกระสุนปืนเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดซึ่งต้องริบตามกฎหมาย

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ ริบของกลาง”

Share