คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1677/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติตาม พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติฯ ลงโทษจำเลยฐาน มีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ฯ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดฐาน มีไม้แปรรูปไว้ในครอบครอง กรณีจึงไม่มีความผิดที่จำเลยต้องรับโทษตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ฯ ที่จะสั่งให้จ่ายเงินสินบน นำจับตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ฯ ได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โดยมิได้แก้ไขคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้จ่ายเงินสินบนนำจับตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ฯ จึงเป็นการมิชอบ ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๗ล ๑๑, ๔๗, ๔๘, ๗๓, ๗๔, ๗๔ ทวิ, ๗๔ จัตวา, ๗๕ พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ มาตรา ๔, ๑๔, ๓๑, ๓๕ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๙๑ ขอให้ริบไม้ประดู่ และรถไถนาแบบเดินตามพร้อมกระบะพ่วงของกลาว และขอให้จ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๑๑, ๗๓ วรรคหนึ่ง พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ มาตรา ๑๔, ๓๑ วรรคหนึ่ง เป็นความผิดหลายกรรม เฉพาะความผิดฐานทำไม้เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติฯ ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ จำคุกคนละ ๖ เดือน ปรับคนละ ๑๐,๐๐๐ บาท ฐานมีไม้แปรรูปหวงห้าม ไว้ในครอบครองเกิน ๐.๐๒ ลูกบาศก์เมตร จำคุกคนละ ๖ เดือน ปรับคนละ ๑๐,๐๐๐ บาท รวมจำคุกคนละ ๑๒ เดือน ปรับคนละ ๒๐,๐๐๐ บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยถูกจำคุกมาก่อนและไม้ประดู่ของกลางมีจำนวนไม่มาก เพื่อ ให้โอกาสจำเลยทั้งสองกลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดคนละ ๒ ปี ให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก ๓ เดือน ต่อครั้ง มีกำหนดคนละ ๑ ปี ให้จำเลยทั้งสองทำงานบริการสังคมหรือ สาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยทั้งสองเห็นสมควรเป็นเวลาคนละ ๑๒ ชั่วโมง ให้แล้วเสร็จ ภายใน ๑ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ ริบของกลาง ให้จำเลยทั้งสองจ่ายเงินสินบนนำจับกึ่งหนึ่งแก่ผู้นำจับตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครอง ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๕๘๔ มาตรา ๔๘ วรรคหนึ่ง ส่วนความผิดฐานทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ ๖ เดือน ปรับคนละ ๕,๐๐๐ บาท ยกเลิกคุมความประพฤติ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทั้งสองฐานทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติฯ ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องจำเลยทั้งสองในข้อหาความผิดฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครอง กรณีจึงไม่มีความผิดที่จำเลยทั้งสองต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ ที่จะสั่งให้จ่ายเงินสินบนนำจับตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ ได้ ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษาแก้โดยมิได้แก้ไขคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้จ่ายเงินสินบนนำจับตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ จึงเป็นการมิชอบ ปัญหานี้แม้คู่ความมิได้ยกขึ้นฎีกา แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า ยกคำขอให้จ่ายเงินสินบนนำจับตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตาม คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๒

Share