แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
นายประกันผิดสัญญาประกันในคดีอาญาต่อศาลศาลมีอำนาจสั่งบังคับตามสัญญาประกันโดยมิต้องฟ้องได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119 และ 249 เมื่อยึดทรัพย์ไว้แล้วศาลสั่งถอนการยึดโดยไม่มีการขายทอดตลาดเพราะนายประกันยอมใช้เงินตามสัญญาประกันเช่นนี้ นายประกันย่อมต้องรับผิดเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีอีกร้อยละ 3 ครึ่งของราคาทรัพย์ที่ยึดตามตาราง 5 ข้อ 2 ท้าย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ย่อยาว
คดีนี้ได้ความว่านายชื้นกับพวกได้ทำสัญญาประกันตัวจำเลยทั้งสามในคดีนี้ต่อศาล ศาลตีราคาจำเลยคนหนึ่งหมื่นบาท ต่อมาปรากฏว่านายโซ๊ะจำเลยหลบหนี ศาลสั่งปรับนายประกันตามสัญญา ต่อมาศาลสั่งให้จัดการยึดทรัพย์ของนายชื้น ก่อนขายทอดตลาดทรัพย์ที่ถูกยึดนายชื้นร้องขอผ่อนชำระเงินค่าปรับเป็นงวด ๆ และขอให้งดการขายทอดตลาดไว้ก่อน ศาลอนุญาตที่สุดนายชื้นได้ชำระเงินค่าปรับครบถ้วนแล้วส่วนเงินค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์แล้วไม่มีการขายอัตราร้อยละ 3 ครึ่งในราคาทรัพย์ที่ยึดเป็นเงิน 875 บาท นายชื้นนายประกันยังมิได้นำมาชำระต่อศาล ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้นายชื้นนำมาชำระภายใน 15 วัน มิฉะนั้นให้ดำเนินการบังคับทางแพ่งต่อไป อย่าเพิ่งปล่อยทรัพย์ นายชื้นคัดค้านว่าไม่ควรต้องรับผิดชอบใช้ค่าธรรมเนียมใด ๆ อีกโดยเป็นคดีอาญาและตนไม่ใช่คู่ความ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าให้นายประกันรับผิดชอบใช้ค่าธรรมเนียมในการยึดทรัพย์ไม่มีการขาย
นายชื้นอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
นายชื้นฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาเห็นว่าในกรณีผิดสัญญาประกันต่อศาล ศาลมีอำนาจสั่งบังคับตามสัญญาประกันได้โดยมิต้องฟ้องดังได้บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119 การที่ศาลสั่งยึดทรัพย์ของนายประกันตาม มาตรา 249 ให้บังคับตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ฉะนั้นการที่สั่งถอนการยึดทรัพย์โดยไม่มีการขายทอดตลาดย่อมต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีร้อยละ 3 ครึ่งของราคาทรัพย์ที่ยึดเป็นเงิน 875 บาท ตามตาราง 5 ข้อ 2 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง พิพากษายืน